7ปริศนาเกี่ยวกับนิชิโนะ
นานาเสะ
ไล่ล่าหาความจริงจากคำให้การของเหล่าเมมเบอร์
(แปลจากโนกิซากะ46 x เพลย์บอย 2018)
นิชิโนะ
นานาเสะ
เซ็นเตอร์ที่ใครต่อใครก็หลงรักกำลังจะจบการศึกษาในวันที่24
กุมภาพันธ์ที่เคียวเซร่าโดม
ใบหน้าจริงๆของเธอเป็นเช่นไรกันนะ?
ฟังคำให้การของเหล่าเมมเบอร์ที่ร่วมงานกับเธอมาตลอด7ปี
เมื่อถอดหน้ากากแล้วโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอเป็นอย่างไร?
และปริศนามากมายผุดขึ้นมาหลังจากมีการซักถามเหล่าเมมเบอร์อย่างเจาะลึก
ปริศนาที่
1 เบื้องหลังห้องพักกับชิราอิชิ
ไม
ชิราอิชิ
ไม กับ นิชิโนะ นานาเสะ
ผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นท็อป2
ของวง
ปกติแล้วในห้องพักของรายการโนกิซากะโคจิจู
นาจังมักจะมีนิสัยเข้าไปกอดเมมเบอร์คนอื่นอยู่เสมอๆ
แต่กับไมยังนั้นมีช่วงหนึ่งที่เธอไม่เข้าใกล้เลยสักนิด
“ฉันเองก็คุยกับนาจังปกติเหมือนๆกับเมมเบอร์คนอื่นนะคะ
แต่นาจังกลับไม่เคยคุยกับฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เลยคิดขึ้นมาว่าเอ๊ะ
นี่โดนเกลียดแล้วเหรอ
หรือเค้าจะกลัวเราล่ะมั้ง
(หัวเราะ)”
ระยะห่างทั้งคู่เริ่มหดสั้นลงเมื่อต้องเป็นเซ็นเตอร์คู่กัน
“พอมีนาจังมาเต้นอยู่ข้างๆก็รู้สึกสบายใจ
รู้สึกว่าเค้าวางใจได้
พึ่งพาได้ ฉันเองก็มีสมาธิกับการแสดงมากขึ้น
โดยเฉพาะเพลง Influencer
ที่ท่าเต้นยากสุดๆ
เราทั้งคู่บ่นว่าไม่ไหวๆแต่ก็ยังพยายามไปด้วยกัน"
หลังจากนั้นภาพของนาจังในห้องพักก็เริ่มเปลี่ยนไป
“ตอนแรกก็ดูเงียบมากๆ
แต่จริงๆเป็นคนพูดเยอะนะ
ชอบขำในเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะขำ
แถมยังชอบปล่อยมุกตลกๆแบบไม่ธรรมดาด้วย"
ลุคสาวสวยที่โตขึ้นมาพร้อมๆกันจะทำให้เธอรู้สึกเป็นคู่แข่งกันมั้ยนะ
“ไม่เลยค่ะ
เราเป็นเพื่อนที่พยายามมาด้วยกัน
เป็นเหมือนกระจก
เพราะเราทั้งสองเต้นคู่บ่อยๆ
ฉันก็จะดูนาจังเต้นเพื่อเปรียบเทียบกับตัวเอง
เต้นด้วยกันเลยเบาใจค่ะ"
ยูนิตคู่อย่างเพลง
Kokoro no Monologue นั้น
ในmvจะมีซีนที่เดินวนประชันหน้ากัน
“เราทำงานมาด้วยกัน7ปี
ก็เลยจะเข้าใจกันและกัน
จังหวะก็เลยพอดีกัน
ระหว่างย้ายที่ถ่ายทำก็ไปเล่นเกมคีบตุ๊กตาที่จุดพักรถอย่างเอาเป็นเอาตายเลยล่ะ
พวกเราจริงจังมาก
นาจังตั้งใจคีบตุ๊กตามาก
พอคีบได้ก็ดีใจร้องยัตต้า
ยังจำภาพนั้นได้อยู่เลย"
ก่อนจะประกาศจบการศึกษาก็พอจะรู้มาลางๆ
“เราทั้งคู่คุยกันเรื่องอนาคต
นาจังเคยเปรยๆไว้ว่าก็คิดเรื่องจบการศึกษาอยู่เหมือนกันนะ
เลยรู้ว่าใกล้จะถึงวันนั้นแล้วสินะ
เพราะฉะนั้นแทนที่จะรู้สึกเหงา
กลับรู้สึกอยากจะช่วยสนับสนุนมากกว่า
จะรอดูนาจังในทีวีและบนปกนิตยสารนะ"
ปริศนาที่
2 เรื่องลับๆจากเพื่อนม.ปลายผ่านคำให้การของซากุไร
เรย์กะ
เป็นทั้งกัปตัน
แล้วยังอยู่ระดับชั้นเดียวกับนาจัง
ซากุไร เรย์กะผู้คอยสนับสนุนนาจัง
“ฉันต้องย้ายโรงเรียนที่เคยเรียนมาอยู่ร่วมชั้นเดียวกันกับนาจังค่ะ"
ในโนกิซากะนั้นมีเพื่อนร่วมชั้นอยู่มากมาย
แล้วมันเป็นโรงเรียนแบบไหนกันแน่นะ
“เราเรียนผ่านออนไลน์เลยไม่ต้องไปโรงเรียนก็ได้ค่ะ
นานๆทีที่ไปโรงเรียนก็จะอยู่ด้วยกัน
แทบจะไม่ได้พูดคุยกับคนอื่นเลยค่ะ
(หัวเราะ)”
ถึงอย่างนั้นก็มีความทรงจำเกี่ยวกับทัศนศึกษาอยู่
“ฉันกับนาจังเราสนิทกันตอนม.ปลาย
ตอนไปทัศนศึกษากันที่ประเทศเกาหลีใต้สนุกมากเลย
นาจังก็ตื่นเต้นมากๆด้วยค่ะ"
ปริศนาที่
3 นาจังเป็นเซ็นเตอร์ที่อ่อนโยนงั้นหรือ?
เมื่อพูดถึงนาจังแล้วก็ต้องนึกถึงความอ่อนโยน
เพราะเธอเคยช่วยเหลือเมมเบอร์หลายๆคนมาแล้ว
เช่น ให้ของขวัญอาสึกะเป็นถุงเท้าถึง2ครั้ง
หรือตอนที่ฮิกุจิ
ฮินะได้เป็นเซ็มบัตสึครั้งแรกและในวันเกิดของทุกๆคนเธอก็จะส่งข้อความไปยินดีเสมอ
หรือตอนที่เทราดะ
รันเซติดเซ็มบัตสึครั้งแรกเธอก็เข้าไปอยู่ใกล้ๆเพื่อให้หายกังวล
หรือตอนที่รุ่น2เข้าวงมาใหม่ๆเธอจะมาช่วยจัดโต๊ะเก้าอี้
และอื่นๆอีกมากมายที่ยกมาเล่าให้ฟังได้ไม่หมด
แต่ในทั้งหมด
เรื่องราวที่น่าประทับใจที่สุดคงจะเป็นเรื่องราวตอนที่โฮริ
มิโอนะได้เป็นเซ็นเตอร์เพลง
Baretta ในช่วงเวลาที่ดูสับสนที่สุด
“ก่อนหน้านี้ฉันชื่นชมนิชิโนะมาตลอด
เวลาถูกถามก็จะตอบเสมอว่ามีโอชิเมนคือนิชิโนะซัง
พอได้เข้าวงมาก็รู้สึกสุดยอดมากเลยที่ได้เต้นไปด้วยกัน
ฉันเคยให้ของขวัญวันเกิดกับนิชิโนะซังไป
แล้วเค้าก็ให้ของขวัญวันเกิดฉันด้วยค่ะ"
การถ่ายทำmvเพลงBarettaมีรุ่น2เพียงแค่คนเดียวก็คือโฮริ
ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังเป็นเซ็นเตอร์ด้วย
ความเหงาและความตื่นเต้นของเธอนั้นไม่สามารถกลบเกลื่อนให้มิดได้เลย
แต่ของขวัญนั้นทำให้เธอคลายความตื่นเต้นลง
“ของขวัญชิ้นนั้นคือสร้อยคอ
แต่มีจดหมายแนบอยู่เขียนเอาไว้ว่า
'อาจจะเหนื่อยหน่อย
แต่สู้ๆนะ'
นั่นเป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ได้สนทนากับรุ่นพี่
ก็ดีใจนะคะแต่ที่สำคัญคือรู้สึกได้รับการยอมรับ
ความอ่อนโยนของนานาเสะซังนั้นช่วยเหลือฉันเอาไว้ค่ะ"
สร้อยคอและจดหมายนั้นถูกวางไว้ในที่ๆเด่นชัดในห้องของเธอ
และยังเก็บรักษาไว้จนถึงทุกวันนี้
นี่แหละคือความอ่อนโยนของนิชิโนะ
นานาเสะ
ปริศนาที่
4 แก๊งซุยกะนั้นไปที่ไหนกันหรือ?
ที่ที่ทำให้นิชิโนะกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น
หลังจบคอนเสิร์ตต่างจังหวัดจะมีแก๊งกินมื้อเย็นที่รวมตัวกันบ่อยๆ
และในกลุ่มซุยกะนี้ก็มีไซโต้
ยูริที่สนิทสนมกับนาจังตั้งแต่กลุ่มนี้เริ่มก่อตั้งขึ้น
ไซโต้ :
ไม่ได้ไปกินข้าวเพื่อมีจุดประสงค์ให้เราสนิทขึ้นกันหรอกนะคะ
แต่ว่าเราคุยกันถูกคอดี
ตอนนั้นที่เรายังไม่ได้สนิทกันมากมาย
เคยมีงานที่เลิกดึกมาก
ตอนนั้นก็เลยถามว่าขอไปนอนที่หอพักของนานาเสะได้มั้ย
นานาเสะตอบมาว่าได้สิแบบไม่ลังเลเลย
ได้นอนเตียงเดียวกัน
ที่ห้องมีตุ๊กตาเต็มไปหมดเลยค่ะ
อิโต้
คาริน
สมาชิกรุ่น2แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไปกินเนื้อย่างกับนิชิโนะด้วยกันสองต่อสองเดือนละครั้งถึงสองครั้ง
อิโต้ :
เวลาที่อยากกินเนื้อย่างก็จะวิ่งเหยาะๆไปแอบชวนนย๊า
(ชื่อเล่นนาจังที่คารินเรียก)
และทุกครั้งที่ชวนก็จะไปด้วยกันเสมอเลยค่ะ
ในกลุ่มของแก๊งซุยกะก็จะมีใบหน้าใหม่ๆของนิชิโนะที่คนอื่นๆไม่ได้เห็น
ไซโต้ :
มีอารมณ์หลากหลายนะคะ
ปกติก็จะเล่นเกมคนเดียวบ่อยๆ
แต่พอขำอะไรก็จะขำสุดๆเลย
แถมยังชอบตีตัวคนอื่นแปะๆๆๆเสมอ
(หัวเราะ)
แล้วก็ตอนที่ออกนอกสถานที่พอเจอแมลงก็จะ
'นี่มันกิ้งก่าสายพันธุ์บลาๆๆ...'
จู่ๆก็เล่าออกมาได้ไม่หยุดเลยค่ะ
โห ท่าทางจะรักจริงๆนะเนี่ย
อิโต้ :
ปกติคนประเภทอินดอร์มักจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น
แต่นี่กลับตรงข้ามสิ้นเชิงเลยนะ
แก๊งซุยกะเคยไปเที่ยวฮ่องกงและปารีสกันด้วยนะ
ไซโต้ :
บนเครื่องบินก็คุยเล่นกับเด็กเล็กๆตลอดทางเลย
ภาพตอนเล่นกับเด็กๆน่ารักมาก
ที่ฮ่องกงถ้าเกิดเป็นที่ที่ไม่ได้สนใจนานาเสะก็จะทำหน้าที่เฝ้ากระเป๋าที่ร้านกาแฟให้
ปกติเธอจะปวดขาง่ายก็เลยพยายามไม่รบกวนคนอื่นเสมอ
เป็นคนอ่อนโยนจริงๆน้า
อิโต้ :
พอไปถึงปารีสดิสนี่ย์แลนด์ก็ตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่เลยค่ะ
คล้องแขนกับจุนนะเกาะหนึบไปตลอดเลย
ไซโต้ :
ตอนไปกินข้าวที่ปารีสสองคนอ่านเมนูไม่ออกเลยสักนิด
ก็เลยชี้มั่วๆไป
ปรากฏว่าบนโต๊ะเค้าเสิร์ฟมาแต่ขนมปัง
(หัวเราะ)
สนุกมากๆเลยค่ะ
แม้ว่านิชิโนะจะจบการศึกษาไปแล้ว
แต่ความสัมพันธ์ของแก๊งซุยกะยังคงดำเนินต่อไป
ไซโต้ :
ปกติที่ห้องพักจะมีนานาเสะนั่งข้างๆเสมอ
พอไม่่อยู่แล้วคงเหงาแย่
แต่ถ้าเกิดว่ามีงานด้วยกันจะบุกเข้าไปในห้องที่มีป้ายชื่อนิชิโนะ
นานาเสะแน่นอน (หัวเราะ)
ปริศนาที่
5 ตำนานที่ว่า นาจัง
= ความน่ารัก24ชั่วโมงไม่มีหยุด
??
คำว่า
นิชิโนะ นานาเสะ = ความน่ารัก
อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับประชาชนทั่วไป
แต่สำหรับเหล่าเมมเบอร์ที่อยู่ด้วยกันมานานพวกเธอรู้มาก่อนหน้าใครๆ
และนี่ก็เป็นคำให้การของเอโต้
มิสะ
“ตอนนาจังอายุ20ปี
มีฉัน นาจังกับคาสึมินไปร้านไก่ย่างด้วยกัน
นาจังบอกว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ได้ดื่มเหล้ากับเมมเบอร์
แต่แค่จิบไปคำเดียวเท่านั้นแหละ
จู่ๆนาจังก็ขำออกมาเฉยเลย
แค่คำเดียวเนี่ยนะ
ภาพเธอตอนขำจนน้ำตาไหลน่ารักมากเลยค่ะ"
คำให้การถัดไปมาจากโยดะ
ยูกิ ผู้สืบทอดจากนิชิโนะ
ในเพลง Nigemizu
เธอเต้นอยู่ข้างๆกันและเริ่มสนิทกันตั้งแต่นั้นมา
“ช่วงเวลาที่รู้สึกว่านานาเสะซังน่ารักเหรอคะ
งั้นขอถามกลับมีช่วงไหนที่รู้สึกว่านานาเสะซังไม่น่ารักบ้างเหรอคะ?
นานาเสะซังคือความน่ารัก24ชั่วโมงไม่มีพักผ่อนค่ะ!
เพลงNigemizuมีท่อนที่ต้องวางมือบนไหล่
พอท่อนนี้นานาเสะซังเค้าจะบีบๆค่ะ
น่ารักมาก แล้วก็กลิ่นหอมด้วย"
แม้แต่เพื่อนร่วมรุ่นและรุ่นน้องก็ยังสัมผัสได้ถึงความน่ารักของเธอ
ปริศนาที่
6 Before – After มานัตสึยินดีที่กลับมานะ
เรื่องราวดราม่าระหว่างนิชิโนะ
นานาเสะกับอาคิโมโตะ มานัตสึ
ในช่วงแรกที่อาคิโมโตะต้องพักกิจกรรมวงและกลับมาอยู่ในฟุคุจินตอนซิงเกิลที่4
ในขณะเดียวกันที่นิชิโนะกลับถูกร่นลงไปอยู่แถว3
หลังจากวันนั้นก็กินเวลาเกิน1ปีที่ทั้งคู่ไม่คุยกันเลยสักนิดเดียว
แต่สุดท้ายก็คลี่คลายลงได้ในงานคอนเสิร์ตครบรอบ2ปีที่นิชิโนะบอกว่า
'มานัตสึ ยินดีที่กลับมานะ'
แต่เดิมนั้นนิชิโนะในสายตาของอาคิโมโตะเป็นอย่างไรกันแน่?
“ตอนก่อนที่จะหยุดไปเรียนเคยไปซ้อมกับเมมเบอร์ทุกคน
โมเมนต์ตอนนั้นกับนาจังเท่าที่จำได้คือลงบันไดด้วยกัน
แล้วก็คุยเรื่องผู้จัดการยังอายุน้อยอยู่เลยคงจะเหนื่อยแย่อะไรทำนองนี้ค่ะ
นาจังหน้าเล็กมากจนน่าตกใจ"
หลังคำว่า
'ยินดีที่กลับมานะ'
แล้วกอดกันนั้นก็สนิทกันเลยเหรอ?
“ตรงกันข้ามเลย
จู่ๆก็เขินกันเฉยเลย (หัวเราะ)
คนอื่นอาจจะคิดว่าเราคงจะคุยกันได้แล้ว
เจอกันก็คุยกันบ้างถ่ายรูปคู่กันบ้าง
แต่คุยเล่นเหมือนกับเมมเบอร์คนอื่นยังไม่ได้
ยังเป็นความสัมพันธ์ที่อึดอัดใจต่อไปอีกสักพักนึงเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็มีงานสัมภาษณ์คู่เพิ่มขึ้น
ไปๆมาๆก็เริ่มหายเขินกันและกัน"
ได้เห็นอีกโฉมหน้าของนิชิโนะที่ไม่มีใครเห็นมาก่อน
“ดูอ่อนแอแต่ความจริงคือเป็นคนจิตใจแข็งแกร่งนะ
ดูสนุกสนานเวลาล้อเลียนฉัน
(หัวเราะ)
เช่นชอบเอาหมวกมาใส่แล้วพอยัดหัวไม่ลงก็จะขำ
แล้วก็บอกว่าหมวกลอยแล้วๆ
มุกที่เห็นในทีวีก็ชอบเอามาเล่นในห้องพักค่ะ"
โมเมนท์ที่จดจำไม่ลืมอีกเรื่องคือตอนไปร้านเนื้อย่างกันสองคนหลังเลิกงาน
“พอบ่นว่าหิวทีไร
นาจังก็จะสวนกลับมาเลยว่าอยากกินเนื้อย่างอย่างจริงจัง
หลังจากนั้นเราก็หาร้านกัน
สนุกดีนะคะที่ได้กินไปคุยไปด้วย
เราชอบสลัดโอโคโนมิยากิที่นู่นมากจนฉันลองเอามาทำเองที่บ้าน
ถ้าเป็นไปได้หลังจบการศึกษาแล้วก็อยากให้แวะมากินที่บ้านดูจังเลยน้า"
เมื่อดูmvเพลง
Tsuzuku
ที่นาจังอีก10ปีให้หลังเป็นคุณแม่ก็หลั่งน้ำตาออกมาในยามค่ำคืน
“ถ้านาจังมีลูกชายคงจะเป็นคุณแม่ที่เข้มงวดแน่ๆเลย
(หัวเราะ)
เพราะนาจังเป็นคนขี้อาย
ถ้าเกิดว่าไม่ได้เจอกันนานๆงานเลี้ยงศิษย์เก่าก็คงจะไม่มาแน่ๆเลย
เพราะฉะนั้นจะพยายามติดต่อไม่ให้ขาดค่ะ
(หัวเราะ) “
ปริศนาที่
7 นิชิโนะจะเล่าเรื่องความอ่อนโยนและความน่ารักจากปากของเธอเอง
มาถึงตรงนี้เมื่อเรารวบรวมคำตอบจากเมมเบอร์หลายๆคนก็จะเห็นจุดร่วมกันอย่างหนึ่งก็คือ
ความอ่อนโยนและความน่ารัก
ซึ่งทั้ง2อย่างนี้เป็นภาพที่ปรากฏในใจของเมมเบอร์ด้วยกันทุกคน
ดังนั้นพวกเราจึงขอนำสิ่งนี้ไปถามกับเจ้าตัวเองเลยดีกว่า
เรื่องแรกก็คือความอ่อนโยน
“งั้นขออธิบายเลยนะคะ
เรื่องสร้อยที่ให้มิโอนะ
ที่ให้ก็เพราะว่าเป็นการตอบแทนของขวัญที่ได้มาเท่านั้นเองค่ะ
มิโอนะเก็บรักษาไว้อย่างดีเลยเหรอ
ทางนี้ก็เหมือนกัน (หัวเราะ)”
ก็เรื่องที่มาจากเหล่ารุ่นน้องที่รู้สึกอยากจะขอบคุณในความอ่อนโยนของนิชิโนะก็เป็นเรื่องจริง
“ฉันว่าตัวเองไม่ได้เป็นรุ่นพี่ที่ดีหรอกค่ะ
ตัวเองก็ไม่ได้เป็นสายเริ่มคุยด้วย
เรื่องที่ยูกิขอบคุณที่ช่วยสอนตำแหน่งยืนเหรอคะ
อันนั้นก็แค่บังเอิญจำได้แค่นั้นเอง
(หัวเราะ)
ที่ให้ถุงเท้าอาสึกะก็เพราะเห็นว่ามันมีรูแล้ว
(หัวเราะ)”
แล้วเรื่องความน่ารักล่ะ
จากคำให้การที่ว่าเวลาเข้าไปกอดใครแล้วดูน่ารักจากปากของเมมเบอร์มากมาย
“ความน่ารักของฉันคือบรรยากาศรอบตัวค่ะ
เพราะหน้าตาหรือสไตล์สู้ใครไม่ได้ด้วย
เวลาที่กอดเมมเบอร์ก็รู้สึกเหมือนกับการกอดหมอนข้างอยู่นะ
(หัวเราะ)”
นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พูดถึงเมมเบอร์คนอื่น
เราจึงอยากจะถามหลายๆเรื่องจากเธอ
“สำหรับไมยังได้เป็นเซ็นเตอร์คู่กันบ่อย
แต่ก่อนหน้านั้นคิดว่าการยืนคู่กันนั้นไม่มีทางจะเหมาะสมกันเลย
แต่ตอนนี้กลับภูมิใจค่ะที่ได้ยืนข้างๆ
ดีแล้วที่ได้ยืนกับไมยัง"
แล้วมานัตสึผู้เป็นดั่งพรหมลิขิตล่ะ
“เคยไปกินเนื้อย่างด้วยกันค่ะ
ก่อนหน้านี้เพราะฉันยังเด็ก
ความสัมพันธ์ของเราก็เลยกระอักกระอ่วน
แต่ตอนนี้ก็เริ่มล้อความหัวใหญ่ของเธอได้แล้วนะคะ
(หัวเราะ)
อยากไปกินเนื้อย่างด้วยกันอีกครั้งจัง"
เมื่อพูดถึงนาจัง
ใครๆก็คงคิดว่าเป็นคนขี้อาย
แต่กับชาวแก๊งซุยกะกลับปฏิเสธโดยสิ้นเชิง
“ถ้าสนิทแล้วก็ไม่เป็นค่ะ
ก่อนหน้านี้เป็นคนขี้อายก็จริง
แต่พอเข้าโนกิซากะ46แล้วก็คิดว่ายังไงก็ต้องแก้ไขจุดนี้ให้ได้
ตอนนี้เลยไม่ขี้อายแล้ว
ถ้าเจอกันครั้งแรกแล้วคิดว่าเป็นคนที่น่าจะเข้ากันได้ก็จะชวนคุยก่อน
ตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะคะ
(หัวเราะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น