Nogizaka46 Monogatari
Another Story
[ค่ำคืนก่อนไลฟ์อันเดอร์
~ในความมืดมิดก่อนฟ้าสาง~]
ในโนกิซากะ46นั้น มีการแสดงที่ชื่อว่า"อันเดอร์ไลฟ์"อยู่
ซึ่งหมายถึงการแสดงที่จัดขึ้นโดยผู้ที่ไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นซบส.เท่านั้น แต่เป็นที่ร่ำลือกันว่า
การแสดงของพวกเธอมีพลังเหนือกว่าเหล่าซบส.
และได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม
“เราจะขยี้แบบแผนของอันเดอร์ทิ้ง"
“พวกเราไม่ได้เป็นตัวสำรอง"
เหล่าอันเดอร์ที่ยืนอยู่ในจุดที่แสงส่องไปไม่ถึง ได้สร้างความเชื่อมั่นเหล่านี้ขึ้นมา
และสร้างจุดยืนที่เป็นของพวกเธอเองเท่านั้น
อันเดอร์ไลฟ์เริ่มต้นในช่วงซิงเกิ้ลที่
8 [Kitzuitara Kataomoi] และนั่นเองก็เป็นจุดเริ่มเรื่องของ
Another Story
----------------------------
โนโจ อามิ
- ความท้อแท้ของผู้มากประสบการณ์
โนโจอามิในวัยเด็ก
เธอมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงตั้งแต่ก่อนขึ้นชั้นประถม โดยแม่ของเธอให้เธอใช้เวลาทั้งสัปดาห์ไปกับการเรียนทั้งร้องเพลง
เต้น การแสดงต่างๆตลอด6ปีในช่วงประถมศึกษา
ครั้งแรกที่เธอเข้ารับการออดิชั่นคือช่วงประถม3
ในละครเวทีเรื่อง
"อานี" ละครเวทีที่เด็กผู้หญิงมากมายต่างชื่นชอบ
แต่ผลปรากฏว่าเธอตกรอบ2
และได้สูญเสียความมั่นใจไป
หลังจากนั้นเธอเข้าออดิชั่นงานต่างๆในวงการบันเทิงมาเรื่อยๆ
โดยเน้นงานนักแสดงเป็นหลัก
เธอผ่านเข้าถึงรอบสุดท้ายอยู่หลายครั้ง
และช่วงหนึ่งเธอยังเคยสังกัดกลุ่มไอดอลหนึ่งในเกาะคิวชูด้วย
“ช่วงนั้น
บริษัทที่สังกัดเขาบอกว่า
อยากจะสร้างไอดอลกรุ๊ปที่จังหวัดฟุคุโอกะ
เลยอยากให้ไปอยู่ที่นั่น
แต่ว่าฉันอาศัยอยู่ที่นี่(แถบโตเกียว)
เลยไม่มีโอกาสได้ไปแสดงซักเท่าไหร่
แต่ทั้งอย่างนั้น ก็ยังถูกเลือกให้เป็นเซ็นเตอร์ค่ะ"
และแล้วโนโจ
ที่เคยผ่านทั้งการเรียนการแสดงและเคยเป็นเซนเตอร์วงไอดอล
ก็ผ่านออดิชั่นโนกิซากะ46
ในช่วงหน้าร้อนของมัธยมปลายปีที่1
ท่ามกลางเมมเบอร์ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
โนโจผู้ผ่านประสบการณ์มามากมายนั้นมีความมั่นใจไม่น้อย
แต่ทว่าความมั่นใจเหล่านั้นก็ค่อยๆถูกทำลายลงไป
นอกจากซิงเกิ้ลแรก
[Guruguru Curtain] และซิงเกิ้ลที่4
[Seifuku no Mannequin] แล้ว
เธอก็ไม่เคยถูกเลือกให้เป็นซบส.เลย
“ตอนนั้นอันเดอร์ไม่มีงานอะไรให้ทำเลยจริงๆค่ะ
ช่วงนั้นเลยไปโรงเรียนตามปกติ
แล้วก็สงสัยว่าตัวเองอยู่ในวงโนกิซากะ46หรือเปล่านะ
ตอนถูกเลือกเป็นซบส.อีกครั้งในซิงเกิ้ลที่4
บานาน่าแมนบอกว่าฉันเป็นคนตลกดี
ตอนนั้นเลยคิดออกว่า อ๋อ
ที่แท้ถูกเลือกมาเพื่อสร้างสีสันรายการวาไรตี้นี่เอง
หลังจากนั้นเลยพยายามมาก
แต่หลังจากนั้นมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ฉันกดดันให้ตัวเองพูดเรื่องตลกๆออกมา แต่ก็กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อไปเสียจนได้ ฉันตั้งทาคายามะ คาสึมิ ขึ้นเป็นคู่แข่งเพื่อให้ตัวเองพยายามมากขึ้น แต่ก็ไม่ถูกเลือกให้เป็นซบส.อีกเลยตั้งแต่ซิงเกิ้ลที่4เป็นต้นมา"
แต่หลังจากนั้นมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ฉันกดดันให้ตัวเองพูดเรื่องตลกๆออกมา แต่ก็กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อไปเสียจนได้ ฉันตั้งทาคายามะ คาสึมิ ขึ้นเป็นคู่แข่งเพื่อให้ตัวเองพยายามมากขึ้น แต่ก็ไม่ถูกเลือกให้เป็นซบส.อีกเลยตั้งแต่ซิงเกิ้ลที่4เป็นต้นมา"
ตอนช่วงประถม
เธอเคยเรียนการแสดงเพื่อหวังจะเป็นนักแสดงในอนาคต
เคยถูกเลือกเป็นเซนเตอร์ในวงไอดอลกลุ่มหนึ่ง
แต่ตำแหน่งอันเดอร์นั้นค่อยๆทำให้เธอหยุดชะงัก
แต่ก้าวต่อไปไม่ได้
----------------------------
นาคาโมโตะ
ฮิเมกะ – สาวน้อยเรียบง่าย
นาคาโมโตะ
ฮิเมกะ ไปโรงเรียนสอนร้องเพลงและเต้น
เนื่องจากแม่ของเธอเป็นผู้แนะนำ
“ฉันเริ่มหัดเต้นตอนป.1
และเข้าโรงเรียนสอนเต้นจริงๆจังๆตอนป.4
ตอนนั้นทำตามที่แม่แนะนำ
ไม่ได้คิดจริงจังเลยค่ะ
เพื่อนที่โรงเรียนทุกคนอยากเป็นนักเต้นในอนาคตกันทั้งนั้น
แต่ฉันกลับบอกว่าอยากเป็นช่างตัดขนสุนัขค่ะ
555 ฉันไปเรียนพิเศษต่างๆเพิ่ม
ส่วนเรื่องการออดิชั่น คุณแม่จะเป็นคนหามาให้เลยไม่ได้คิดว่ามันแปลกอะไร"
บ้านของเธออยู่ที่จังหวัดฮิโรชิม่า
พี่น้องของเธอประกอบด้วยเธอ
พี่สาว และน้องสาว
“พวกเราเป็นพี่น้อง3สาวค่ะ
พี่สาวไม่ได้ทำอะไรแบบนี้เลย
เธอเรียนเก่งมากๆค่ะ
ส่วนน้องสาว เธอร้องเพลงเก่งมากตั้งแต่เด็ก
เลยเอาดีทางด้านนี้มากกว่าการเรียนค่ะ
ทั้งสองคนต่างก็โดดเด่นกันคนละด้าน
ฉันเป็นคนครึ่งๆกลางๆ
ไปโรงเรียนสอนเต้นก็จริง
แต่ก็ไม่เคยคิดว่าอยากจะทำงานในวงการบันเทิงค่ะ"
“การออดิชั่นต่างๆ
คุณแม่ของฉันเป็นคนช่วยหาให้
แต่ว่าการออดิชั่นวงโนกิซากะ46เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจเองค่ะ
ไม่รู้ทำไมจู่ๆก็คิดว่าน่าสนุกจังเลยนะ
อยากลองทำจัง แต่ตอนนั้นเป็นช่วงม.ปลายปี3พอดี
สมมติถ้าออดิชั่นไม่ผ่าน
ก็คงจะเลิกไปเรียนเต้นแล้วหันมาสอบจริงๆจังๆแทนไปแล้ว
ฉันเลือกสมัครรุ่นที่1
เพราะถ้าเป็นรุ่นที่2ฉันคงกลัวพวกรุ่นพี่จนไม่กล้าแน่ๆค่ะ
555”
และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เธอตั้งใจทำมันด้วยตัวเอง
เธอออดิชั่นและผ่านเข้ามาได้อย่างงดงาม
แต่ทว่า เธอก็ยังไม่ถูกเลือกเป็นซบส.อยู่ดี
“เพราะเป็นคนมีชีวิตเรียบง่ายมาตลอด
พอเข้าวงโนกิซากะ46มา
ก็เริ่มท้อค่ะ
ตอนแรกที่ไม่ได้เป็นซบส.ก็ฮึดสู้ขึ้นมา
แต่ว่าตารางงานก็ว่างเปล่า
ตอนนั้นในรายการโนกิซากัตเตะโคโคะ
ที่ฉายเฉพาะทางอินเตอร์เน็ต
เพื่อนๆบอกว่าฉันมีบีมออกมาจากดวงตา
เลยกลายเป็นท่าไม้ตายฮิเมตันบีมขึ้นมา
แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางเท่าไหร่
ตอนช่วงซิงเกิลที่3 [Hashire!
Bicycle]เป็นช่วงที่เริ่มถอดใจค่ะ
พอฉันมาลองคิดตอนนี้
ตอนที่ซ้อมฉันก็ไม่ได้ทุ่มเทด้วยพลังจริงๆ เป็นอันเดอร์ที่ยืนอยู่ริมสุดค่ะ
ในMV [Seifuku no Mannequin] ทุกคนได้ออกในMVกันหมด
แต่ฉันเป็นคนที่ยืนสุดขอบ
กังวลมากๆเลยค่ะ"
เธอถูกเลือกเป็นซบส.ซิงเกิลที่7
[Baretta] แต่ก็หลุดกลับไปเป็นอันเดอร์อีกครั้งในซิงเกิลที่
8
“ฉันคิดอยากเลิกหลายครั้งค่ะ"
----------------------------
นาคาดะ
คานะ – ไปสู่ไอดอลในอุดมคติ
“ฉันไม่ได้อยากเป็นไอดอลหรอกค่ะ
ในทางกลับกัน
ฉันมาออดิชั่นเพื่อให้ได้เป็นเพื่อนกับไอดอล
เป็นแค่กิจกรรมของโวตะไอดอลค่ะ" นาคาดะ
คานะ เมื่อมองย้อนกลับไป
มันเป็นเพียงความคิดของคนที่คลั่งไอดอลมากๆ
“ความจริง
ไม่ได้ตั้งใจจะมาออดิชั่นหรอกค่ะ
ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับคนที่มาออดิชั่น
แลกเปลี่ยนเบอร์ติดต่อ
แล้วสนิทกันค่ะ
และที่โรงเรียนมีกฏห้ามทำกิจกรรมในวงการบันเทิงด้วยค่ะ"
เธอออดิชั่นด้วยความคิดเช่นนั้น และผลปรากฏว่าเธอผ่านการออดิชั่น
เธอจึงโทรไปแจ้งข่าวนี้ให้แม่ของเธอทราบ
“ฉันบอกแม่ให้ช่วยโทรไปลาออกจากโรงเรียนค่ะ
เพราะคิดว่านี่เป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ จากนั้นก็ย้ายไปเรียนโรงเรียนที่ฉันสามารถทำงานในวงการบันเทิงได้
แม่ของฉันโกรธมาก
เพราะท่านวางแผนให้ฉันเรียนกวดวิชาตั้งแต่ประถม
เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย
และหางานดีๆได้ ท่านแทบไม่เชื่อเลยค่ะ
แต่ว่าพ่อเข้าใจ ความจริงพ่อดูเหมือนว่าอยากจะให้ฉันเป็นไอดอลน่ะค่ะ
พ่อชอบHello! Projectมาก
เลยให้ไปออดิชั่นตั้งแต่เด็กๆค่ะ"
ตั้งแต่นาคาดะเข้ามาในวง
เธอถูกเลือกให้เป็นชิจิฟุคุจิน
และในซิงเกิ้ลที่2เธอก็ถูกวางให้อยู่ในตำแหน่งแถวหน้า
แต่ทว่า
หลังจากนั้นตำแหน่งของเธอก็ค่อยๆถอยร่นลงมาเรื่อยๆ
ทีละนิดๆ
“ในซิงเกิลที่4
[Seifuku no Mannequin] เป็นครั้งแรกที่ไม่ถูกเลือกเป็นซบส.
หลังจบการประกาศในรายการโนกิโดโคะ
ฉันร้องไห้เสียงดังต่อหน้าทุกคนในห้องพักค่ะ
ช่วงนั้นพอดีตรงกับตอนที่ตัดสินใจเลือกไม่สอบเข้ามหาลัยต่อ
ฉันทำพฤติกรรมแย่ๆกับอันเดอร์เมมเบอร์ไปค่ะ
ขอโทษจริงๆค่ะ"
หลังจากนั้น
เธอกลับมายืนในตำแหน่งซบส.ในซิงเกิ้ลที่5และ6
และหลังจากนั้นเธอก็ตกไปเป็นอันเดอร์อีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ทำให้เธอแน่วแน่กว่าเดิม
“ฉันคิดว่าสักวันหนึ่งต้องได้กลับไปเป็นซบส.แน่นอนค่ะ
แต่ว่าฉันเองก็มีสิ่งที่อยากจะทำให้ได้อยู่เหมือนกัน
ฉันชอบการแสดงไลฟ์ของAKB48มากๆ
ถ้าเป็นไอดอล ยังไงๆก็ต้องมีไลฟ์ เลยอยากให้มีไลฟ์ของอันเดอร์บ้าง
ถึงมันจะเล็กแค่ไหนก็ตามค่ะ"
นาคาดะคานะที่คลั่งไคล้ไอดอลมากๆ
ขณะเดียวกันกับที่เธอทุ่มเทแรงกายให้กับอันเดอร์
เธอยังครุ่นคิดถึงการเป็นไอดอลในอุดมคติอีกด้วย
----------------------------
เอโต้
มิสะ – ประวัติอาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่
โซนี่มิวสิคจัดการออดิชั่นครั้งใหญ่ที่สุดทั่วประเทศ
นั่นคือการออดิชั่นโปรเจคท์โนกิซากะ46
ด้วยเหตุนี้
ในวงโนกิซากะ46จึงมีคนที่เคยผ่านงานบันเทิงมาอย่างเช่นโนโจอามิรวมอยู่ด้วย
ในบรรดาเมมเบอร์ทั้งหมด
คนที่เคยมีชื่อปรากฏในวงการที่น่าจดจำที่สุด
คือเอโต้มิสะ
เธอเคยรับรางวัลกรังปรีด์ของมิสแม็กกาซีนในเดือนกรกฎาคม
ปี2011
“ตอนเดือนเมษายน
ปี2011 มีแมวมองเข้ามาทัก ตอนนั้นเป็นช่วงที่เพิ่งจบม.ปลายและย้ายเข้ามาในโตเกียวพอดีค่ะ
ออดิชั่นที่ไปครั้งแรกคือมิสแม็กกาซีนค่ะ อยากจะเป็นนักแสดง
และชื่นชอบมิสแม็กกาซีนคนก่อนเช่นคิตาโนะคีมากๆด้วยคะ เลยคิดว่าตรงนี้อาจจะเป็นประตูก้าวสู่การเป็นนักแสดง
เลยลองเข้ามาประกวดดู
พอได้รางวัลก็ตกใจมากๆเลยค่ะ"
การเข้ามาอยู่ที่โตเกียว
แล้วเปล่งประกายในตำแหน่งมิสแม็กกาซีนในทันทีนั้น
กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่น่าเชื่อของผู้หญิงคนนี้
“ฉันชื่นชมAKB48จริงๆนะคะ
ฉันเองถึงอยากจะเป็นนักแสดง
แต่ความอยากเป็นไอดอลก็รุนแรงไม่แพ้กันค่ะ เลยลองเข้ามาออดิชั่นโนกิซากะ46
ทุ่มเทด้วยพลังที่มี
ถ้าได้อยู่ในวงนี้อาจจะทำให้เปล่งประกายมากขึ้นค่ะ
ฉันเองก็เพิ่งอายุ18
เพิ่งเข้ามาโตเกียว
ความใฝ่ฝันเลยสูงมากๆค่ะ
เธอแบกความฝันนี้
ก้าวเข้าไปสู่การออดิชั่นโนกิซากะ46
และแล้วเธอประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
อนาคตที่สดใสดูเหมือนว่ากำลังรอคอยเธออยู่
“ความจริงแล้วฉันแทบไม่ได้รู้สึกถึงความพิเศษของการเป็นมิสแม็กกาซีนเลยค่ะ เป็นเพียงคนที่ถูกเลือก
ไม่ได้มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันอะไรเลย
ทุกๆคนในวงต่างเริ่มต้นในจุดเดียวกันทั้งสิ้น
ฉันที่มีตำแหน่งมิสแม็กกาซีนอยู่
ยิ่งทำให้ใครๆคาดหวังว่าจะสามารถทำได้มากกว่าคนอื่น
เป็นความกดดันที่ทรมานจริงๆค่ะ"
เนื่องจากเธอเคยมีตำแหน่งมิสแม็กกาซีน
ทำให้นักข่าวมากมายต่างมุ่งความสนใจไปที่ตัวเธอ
และคิดว่าเธอจะเป็นผู้ที่นำพาวงโนกิซากะ46ให้โด่งดังแน่ๆ
แต่ในความเป็นจริงที่โหดร้าย
เธอไม่ได้ถูกเลือกให้อยู่ในซบส.
“ตอนนั้นฉันกังวลมากๆเลยค่ะ
ฉันเองก็ไม่ได้แตกต่างกับเมมเบอร์คนอื่นๆ
ในช่วงแรกแฟนๆคงจะตื่นเต้นไปกับวงโนกิซากะ46ว่าวงนี้จะถูกย้อมออกมาเป็นสีอะไร
แต่คนที่เคยมีประวัติเคยเป็นมิสแม็กกาซีนมาก่อน(เธอเทียบว่าเหมือนประวัติอาชญากรรม)
ทำให้เคยถูกย้อมสีมาแล้ว
ให้คิดว่าไม่มีอคติมันก็เป็นไปไม่ได้ค่ะ
ถ้าได้ยืนตำแหน่งแถวหน้า
คงจะมีคนคิดว่าฉันได้ยืนตรงนี้เพราะเป็นมิสแม็กกาซีนมาก่อนสินะ ความจริงก็ดีใจกับตำแหน่งมิสแม็กกาซีนที่ได้รับมากๆเลยนะคะ
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าที่เราไม่ได้ยืนในซบส.เป็นเพราะตำแหน่งนี้สินะ"
ประวัติอาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้เธอต้องพิสูจน์ตัวเอง
ในขณะนี้เธอกำลังค่อยๆก้าวไปข้างหน้าช้าๆทีละก้าว
----------------------------
นากาชิมะ
เซย์ระ – ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ
นากาชิมะเซย์ระมีพี่ชาย2คน
เธอจึงเป็นเด็กผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงให้เติบโตและแข็งแกร่งอย่างเด็กผู้ชาย
ที่โรงเรียนเธอเป็นคนประเภทที่สามารถพูดคุยได้กับทุกคนโดยไม่เกี่ยงว่าเขาเป็นเพศชายหรือหญิง
เป็นคนที่เก่งที่สุดหรือห่วยที่สุดในโรงเรียน
“เพราะการมีพี่ชายสองคนทำให้ติดนิสัยเป็นคนพูดจาโผงผาง
คำพูดเหล่านั้นอาจจะทำคนอื่นโดยไม่รู้ตัว
ด้วยเหตุนี้
ตอนมัธยมต้นทำให้ไม่มีเพื่อนผู้หญิงค่ะ
จากนั้นก็เริ่มระวังว่าสิ่งที่พูดไป
คนอื่นเขาจะคิดยังไงกันนะ
ฉันเริ่มคิดก่อนพูด
และคอยให้กำลังใจเพื่อนๆอยู่เสมอค่ะ"
ตอนช่วงมัธยมปลาย
เธอเป็นคนดังที่มีเพื่อนๆอยู่รายล้อมตลอด
และในช่วงม.ปลายปีที่2
เธอก็ผ่านการออดิชั่นเข้ามาในวงโนกิซากะ46
“ในวันที่จะต้องไปโตเกียว
เพื่อนๆทุกคนในชั้นร่วมกันจัดงานเลี้ยงอำลา
เพื่อนในชมรมฟุตบอลที่เป็นผู้จัดการและรุ่นพี่ที่จบไปแล้วก็มาจัดงานเลี้ยงอำลาให้กำลังใจด้วยค่ะ
หลังจากเลิกงานฉันก็กลับบ้านไปครั้งนึง
ก่อนจะตรงไปสถานีนาโกยะค่ะ
ปรากฏว่าทุกคนยืนคอยตรงทางเข้ารถไฟชินคันเซ็นทั้งๆที่เพิ่งจะบอกลากันไปเมื่อกี้ค่ะ
พอฉันเข้าเกทแล้ว
ทุกคนตะโกนพร้อมกันว่า
"เซย์ระสู้เค้านะ!"
(เซย์ระกัมบาเระ)
ทุกคนร้องไห้กันหมดเลยค่ะ
ขนาดผู้ชายที่ปกติไม่ค่อยร้องไห้ก็ยังร้องค่ะ
เพราะเพื่อนดีทุกคน
ทำให้การจากลาเป็นเรื่องที่ทรมาณค่ะ"
นากาชิมะเซย์ระเข้าโตเกียวเพื่อเริ่มการใช้ชีวิตเป็นไอดอล
โดยแบกเสียงเชียร์และความคาดหวังของเพื่อนๆเอาไว้เต็มอก
แต่ทว่าเธอก็ยังไม่สามารถตอบแทนความหวังเหล่านั้นได้เสียที
“ทั้งๆที่ฉันหวังจะได้เป็นซบส.แต่ก็ไม่เคยได้เป็นซักทีเลยค่ะ
มันทรมาณมาก
การเป็นอันเดอร์มันแทบไม่มีงานให้ทำเลยค่ะ
ปกติรายการโนกิซากัตเตะโดโคะ
จะมีแต่ซบส.ไปออกรายการเท่านั้นค่ะ
ตอนประกาศซบส. เพื่อนโทรมาบอกว่า
ไม่เป็นไร เราจะรอดูเธอนะ
ไม่ว่าเซย์ระจะยืนอยู่ตรงไหนฉันก็จะคอยเชียร์เธอเสมอนะ"
ทุกๆวันผ่านไปอย่างยากลำบาก
จนกระทั่งเข้าสู่ซิงเกิ้ลที่5
[Kimi no na wa Kibou] เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับเลือกเป็นซบส.
“ตอนที่ประกาศซบส.เป็นช่วงเดือนมกราคม
ตรงกับช่วงที่สอบเข้ามหาลัยพอดีเลยค่ะ
เพื่อนโทรมาบอกฉันว่า
「ขอบคุณนะเซย์ระที่ติดซบส.ได้
เหมือนเธอให้ความหวังกับพวกเราเลย」「เธอเข้าซบส.ได้ในช่วงใกล้สอบแบบนี้
พวกเราก็ต้องพยายามเข้าเหมือนกัน」”
ความพยายามของเธอสำเร็จได้ด้วยดี
และได้ต่อยอดให้กับเพื่อนๆของเธอด้วย
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ซิงเกิ้ลที่6เป็นต้นมา
เธอก็กลับไปเป็นอันเดอร์ตามเดิม
“ตอนที่กลับไปเป็นอันเดอร์
เป็นช่วงที่ไมยันก้าวขึ้นไปเป็นเซนเตอร์พอดีค่ะ
หลังประกาศซบส. ฉันเห็นเธอร้องไห้
เลยตัดสินใจบอกไปว่า
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะคอยช่วยเหลือเสมอค่ะ"
แม้ว่านากาชิมะเซย์ระจะกลับไปเป็นอันเดอร์อีกครั้ง
แต่เธอก็ตั้งปณิธานไว้ว่าจะคอยสนับสนุนเพื่อนทุกคนเสมอ
ไม่ว่าเธอจะยืนอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม
----------------------------
ไซโต้
อาสึกะ – น้ำตาของสาวน้อยที่ไหลริน
“ฉันเข้าวงโนกิซากะมาโดยไม่ได้คิดอะไรค่ะ"
ไซโต้อาสึกะที่ขณะนี้ทำหน้าที่อยู่ในตำแหน่งซบส.
เธอเล่าว่าตำแหน่งซบส.ในช่วงแรกนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรนัก
แต่ความรู้สึก"เจ็บใจ"ครั้งแรกของเธอก่อตัวขึ้นตอนซิงเกิ้ลที่3
[Hashire! Bicycle]
“ตอนช่วงที่เรียนเพลงนี้กัน สมาชิกอันเดอร์ก็ได้แต่นั่งดูค่ะ
ถ้าเทียบกับเพลง[Guruguru
Curtain]หรือเพลง[Oide
Shampoo]แล้ว เพลง[Hashire!
Bicycle] เป็นเพลงเร็วที่ทำนองสดใสมากกว่า
พอเห็นโนกิซากะได้ร้องเพลงแนวไอดอลจริงๆแล้วก็น้ำตาไหลเลยค่ะ
เลยรู้ว่าตัวเองกำลังเจ็บใจอยู่"
“การแสดงครั้งแรกในงานจับมือรวม
อันเดอร์ได้รับมอบหมายให้ถือม่านบังในขณะที่ซบส.กำลังแสตนด์บายรอ
ตอนซ้อมสตาฟก็กำชับอันเดอร์ว่าถึงแม้เราจะแค่ถือม่านก็อย่าลืมยิ้มล่ะ
แต่เอาเข้าจริงมันฝืนยิ้มไม่ได้เลย
น้ำตามันไหลตลอด
ทั้งๆที่เปิดตัวเพลงใหม่แท้ๆ"
การต่อสู้ของไซโต้อาสึกะเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เธอสามารถก้าวเข้ามาในซบส.ได้ในซิงเกิ้ลที่4และ7
ตอนที่เธอไม่ถูกเรียกชื่อในซิงเกิ้ลที่8
เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี
พอปีนขึ้นไปได้ไม่ทันไรก็ลื่นตกลงมา
ความเป็นจริงของกำแพงซบส.ที่ทั้งสูงชันและแสนเศร้านั้น
ช่างโหดร้ายเหลือเกิน
----------------------------
อิโต้
มาริกะ – การกลับใจของสาวน้อยผู้ไม่กระตือรือร้น
เธอเล่าให้เราฟังว่าในช่วงวัยเด็กนั้นเธอเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้นเอาเสียเลย
“ตอนเด็กฉันสังกัดเอเจนซี่นางแบบแต่ก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่
ได้ไปออดิชั่นหลายครั้งแต่ก็ตกรอบหมดเพราะขาดความกระตือรือร้น
ตอนนั้นในหัวไม่มีความรู้สึกท้าทายเลยค่ะ
เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ผ่าน
แล้วก็ไม่ผ่านจริงๆ
ฉันอยากจะเป็นนางแบบ
แต่ความสูงก็ไม่ถึง
แล้วก็ไม่ได้อยากจะทำเท่าไหร่
เป็นคนที่ไม่ได้เรื่องเลยค่ะ"
ทั้งๆอย่างนั้นอิโต้ก็ออดิชั่นโนกิซากะ46ผ่านมาได้
ในซิงเกิลที่3 [Hashire! Bicycle] เธอ
ฟุคุกาวะไม และ วาคัทสึกิยูมิ
ได้เข้ามาเป็นซบส.ครั้งแรกพร้อมกัน
แต่ซิงเกิลที่4กลับมีแค่เธอเพียงคนเดียวที่หลุดลงไปอยู่อันเดอร์
“ฉันพยายามไม่พอค่ะ
และเริ่มคิดว่าตัวเองไม่มีคาแรกเตอร์เลย
ไม่เหมือนกับสองคนนั้น"
จุดเริ่มต้นของมาริกะคือซิงเกิลที่5
การทำ "โคะจินPV”
หรือหมายถึงการทำ
PV ของแต่ละคน
เพื่อโปรโมตตัวเอง และในตอนนั้นเอง
[Marikka '17] ก็ได้กำเนิดขึ้นมา
อิโต้ใส่เฮดโฟนและร้องเพลงบนระเบียง
ซึ่งทั้งน่ารักและน่าประทับใจ
ถ้าได้ดูครั้งหนึ่งก็ไม่มีทางที่จะลืมมันลงได้แน่นอน
“ถึงฉันจะไม่ได้อยู่ในซบส.
แต่เพลง [Marikka '17]
ก็กลายเป็นกระแสขึ้นมา
มีหลายๆคนบอกว่าไม่รู้จักหน้าฉันแต่กลับรู้จักเพลงนี้
ฉันกลับเข้าไปในซบส.ในซิงเกิ้ลที่7
[Baretta] ซึ่งในMVฉันได้ท้าทายในการแสดงเป็นเด็กสาวที่ถูกยากูซ่าข่มขู่
กระแสตอบรับดีทีเดียวเลยค่ะ
ตอนนั้นความกระตือรือร้นก็เริ่มต้นขึ้นมา
แต่ซิงเกิลถัดมา กลับไปเป็นอันเดอร์เหมือนเดิม
ก็กังวลใจอยู่เหมือนกันค่ะ"
อิโต้มาริกะที่สลับไปมาระหว่างตำแหน่งซบส.และอันเดอร์
ไม่รู้วิธีการที่จะคลายความกังวลใจเช่นนี้ได้อย่างไร
---------------------
แปลจากนิตยสาร Nogizaka46 x Weekly Playboy
หน้า054-058
อาชูริน สู้ๆ
ตอบลบ