*ในบทสัมภาษณ์นี้จะมีผู้ถามด้วยนะครับ ผมขอแทนด้วยตัวย่อMCแล้วกัน
-ศูนย์ปรึกษาปัญหาชีวิตของคนโนะ โยชิโอะ-
โนกิซากะรุ่น2ที่โดดเด่นทั้งสามคน
พวกเธอมีปัญหาหนักอกหนักใจอย่างลับๆ
เพราะฉะนั้นเราจึงขอเปิดห้องให้คำปรึกษากับผู้จัดการวงโนกิซากะ46
"คุณคนโนะโยชิโอะ"
แล้วสุดท้ายปัญหาของทุกคนจะสามารถคลี่คลายลงได้หรือไม่!?
MC : เชิญคุณโฮริเข้ามาก่อนเลยครับ
โฮริ :
ฉันมีเรื่องอยากจะถามค่ะ
ทำไมฉันถึงผ่านออดิชั่นมาได้ทั้งๆที่ไม่ได้โดดเด่นเลยคะ
มันน่าประหลาดมากค่ะ
คนโนะ :
ไม่ๆ มิโอนะน่ะโดดเด่นมากตั้งแต่ต้นเลยล่ะ
โฮริ :
เอ๋! งั้นหรือคะ?
คนโนะ :
โดดเด่นอันดับหนึ่งเลยล่ะ
โฮริ :
อ้า อ้า..
คนโนะ :
ตอนสัมภาษณ์
ผมคิดว่าเด็กคนนี้มีอะไรพิเศษมากมายเลยล่ะ
แต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าอะไร
แต่นั่นก็ทำให้พวกเราจดจำตัวเธอได้ครับ
MC :
ช่วยอธิบายทีครับว่าหมายความว่าอย่างไร
คนโนะ :
เธอไม่ได้ดูมุ่งมั่นเท่าไหร่
ก็จริงอยู่ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจ
แต่สำหรับเธอมันกลับกัน
ยิ่งทำให้ตัวเธอเด่นขึ้นมากๆเลยล่ะ
MC : คุณโฮริทำอะไรบ้างครับในตอนนั้น
โฮริ :
ตอนให้แสดงความสามารถพิเศษฉันทำอะไรไม่เป็นเลยค่ะ
คิดอย่างเดียวว่าต้องทำให้กรรมการประทับใจให้ได้
แต่ก็นึกเรื่องตลกๆไม่ออก
สุดท้ายเลยพูดเรื่องไร้สาระอย่าง
"ฉันเป็นคนผมบางค่ะ"
อะไรทำนองนี้ไปค่ะ
คนโนะ :
อืม
เป็นการเล่าเรื่องไร้สาระที่หน้าตายมากครับ
เธอเล่าได้อย่างไม่รู้สึกอะไรเลยครับ
ซึ่งก็ตรงกับมิโอนะที่ทุกคนรู้จักกันในตอนนี้ใช่มั้ยล่ะครับ
MC :
สิ่งที่คุณคนโนะมองเห็นความโดดเด่นในตัวเด็กๆตั้งแต่แรกคืออะไรครับ
คนโนะ :
บอกชัดๆไม่ได้น่ะครับ
ก็ดูโดยรวมตั้งแต่รูปลักษณ์ไปจนถึงบรรยากาศรอบตัวเธอทั้งหมดครับ
MC :
แล้วมีทริคในการสร้างความประทับใจมั้ยครับ
คนโนะ :
อืม...
ถ้าเตรียมมาดีๆมันจะไม่ค่อยน่าสนใจครับ
ตัวเองที่เสแสร้งสร้างขึ้นมามันไม่ทำให้เราประทับใจครับ
MC : ในทางกลับกัน
ถ้าแสดงความจริงใจออกมาจะดีใช่มั้ยครับ
คนโนะ :
ใช่ครับ มันน่าสนใจกว่า
ไม่ต้องทำอะไรเกินความสามารถ
พวกเราดูออกครับ
MC : ดูออกเหรอครับ
โฮริ :
ไม่รู้สินะคะ
MC :
คงจะกังวลว่าทำไมถึงได้เข้ามาตรงนี้สินะครับ
แต่ยังไงๆก็ต้องมีเหตุผลอยู่ด้วยแน่นอน
เพราะฉะนั้นมั่นใจในตัวเองเข้าไว้นะครับ
โฮริ :
ขอบคุณค่ะ ขอถามอีกข้อได้มั้ยคะ
จากนี้รุ่นที่2ควรจะทำยังไงต่อไปดีคะ
คนโนะ :
แล้วมิโอนะคิดว่ายังไง
โฮริ :
พวกเราควรนำโนกิซากะให้ก้าวสูงขึ้นไป
ถึงตอนนี้จะมีรุ่นที่1เป็นหลัก
แต่รุ่น2ก็ต้องพยายามเต็มที่
เพื่อปกป้องคำว่าโนกิซากะเอาไว้ค่ะ
คนโนะ :
เทียบกันแล้วรุ่น2ก็ออกมาข้างหน้าน้อยกว่าจริงๆแหละครับ
เพราะออร่าของรุ่นหนึ่งเขาได้เปล่งออกมาแล้ว
เพราะฉะนั้นต่อไปทุกคนก็จะมีออร่าออกมากันแหละครับ
MC :
ทำไมคุณโฮริถึงอยากจะถามเกี่ยวกับรุ่นที่2ล่ะครับ
โฮริ :
ก็เป็นเพราะรุ่นที่2ไม่ค่อยมีใครได้เป็นซบส.น่ะค่ะ
แต่ว่าพวกเราเองก็รู้ตัวเองนะคะว่ายังขาดอะไรอยู่
MC : แล้วขาดอะไรครับ
โฮริ :
ความมั่นใจค่ะ
พวกเรายังแสดงความกังวลใจออกมาทางสีหน้าบ่อยๆ
ซึ่งนั่นจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี
คนโนะ :
มิโอนะเป็นรุ่นสองที่ใกล้ชิดกับผมที่สุด
เพราะงั้นผมฝากไปบอกทุกคนว่ามีความมั่นใจกันหน่อย
แล้วเปล่งประกายไปด้วยกันนะ
MC : มีวิธีสร้างความมั่นใจมั้ยครับ
คนโนะ :
มันขึ้นอยู่กับแฟนๆและคนรอบข้าง
เช่นขายบัตรจับมือหมด
หรือถ่ายรูปออกมาดี
หรือได้รับความวิจารณ์ที่ดีๆ
ทั้งหมดนี้มีส่วนให้เรามีความมั่นใจขึ้นมานะ
โฮริ :
เข้าใจแล้วค่ะ
คนโนะ :
รุ่นที่1เค้าทดลองซ้ำๆกันมาหลายรอบจนได้
เพราะงั้นรุ่นที่2ที่มีความมั่นใจก็สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เช่นกัน
ต่อไปไม่ต้องสนว่าเป็นรุ่นหนึ่งหรือรุ่นสองแล้ว
--------------------------------------------
MC : ต่อไปเป็นคุณคิตาโนะครับ
คิตาโนะ
: ในซิงเกิ้ลที่แล้ว
จู่ๆฉันก็ถูกเลือกให้ยืนแถวหน้าในเพลงอันเดอร์
[Wakaregiwa Motto Suki ni Nareru]
ฉันเลยสงสัยค่ะว่าทำไมถึงได้เป็นฉัน
คนโนะ :
เมื่อก่อนมีนักฟุตบอลที่รับส่งลูกอย่างดี
แต่พอชู๊ตกลับไม่เข้าประตู
พอไปถามเขาว่าทำไมถึงยิงไม่เข้า
เขาก็ตอบว่าก็เพราะส่งลูกมาเร็วเกินไปน่ะสิ
คิตาโนะ
: หมายความว่ายังไงเหรอคะ
คนโนะ :
หมายความว่ายังไงเหรอ
เหตุผลของการที่ได้มายืนแถวหน้ามันไม่สำคัญอะไรทั้งนั้น
สิ่งสำคัญคือ เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว
ตรงนี้เราสามารถสร้างความประทับใจได้มั้ย
ยิงเข้าประตูได้หรือเปล่า
ตรงนี้มันสำคัญกว่าน่ะ
คิตาโนะ
: .......
คนโนะ :
ถ้าถามเหตุผลจริงๆคงเป็นความบังเอิญด้วยล่ะ
ที่โชคมันหมุนมาทางเธอ
แล้วผลลัพธ์ล่ะเป็นยังไงบ้าง?
คิตาโนะ
: ฉันก็...
คนโนะ :
อืม นั่นแหละที่อยากจะชม
จากคนที่เต้นไม่ได้เรื่องเลยจนเอาจนได้
ที่จริงผมเองก็แอบเป็นห่วงอยู่เหมือนกันนะ
แล้วเธอรู้สึกอย่างไรกับการได้มายืนแถวหน้าบ้าง
คิตาโนะ
: เป็นเป้าหมายของฉันมาตลอดเลยค่ะ
ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จแล้ว
คนโนะ :
งั้นพอแค่นี้มั้ย
คิตาโนะ
: ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ
ฉันเคยรู้สึกสบายใจที่เดินนำหน้ารุ่นที่2ทุกคนก้าวนึงมาก่อน
แต่พอรุ่น2ทุกคนเลื่อนขั้นจากเคงคิวเป็นสมาชิกเต็มตัว
ก็พูดอย่างสบายๆไม่ได้อีกแล้ว
คนโนะ :
เพราะเธอเคยเป็นนัมเบอร์ทูของรุ่นที่2
เพราะฉะนั้นชะล่าใจไม่ได้เชียวนะ
คิตาโนะ
: ฉันคิดมาตลอดว่าควรจะยืนจุดไหนดีนะ
เข้าวงมา1ปีกว่า
แต่ก็เอื้อมไปแตะตำแหน่งซบส.ไม่ถึงซักที
เริ่มจะถอดใจแล้วล่ะค่ะ
จู่ๆก็อยากจะร้องไห้
คนโนะ :
การที่เคยเป็นซบส.มาก่อน
การจะเข้าไปใหม่อีกครั้งมันเป็นเรื่องยาก
ต่อไปก็คิดว่าจะทำอะไรตามใจตัวเองใช่มั้ยล่ะ
ก้าวขึ้นไปให้ขึ้นจุดสูงสุดและเป็นตัวของตัวเอง
จนกว่าจะได้เป็นซบส.ก็ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด
คิตาโนะ
: (พยักหน้า)
ดูพวกรุ่นพี่ก็คิดตลอดเลยค่ะว่า
อยากจะเป็นแบบนั้นบ้างจัง
ซักวันหนึ่งจะแซงขึ้นไปให้ได้เลย
คนโนะ :
แต่ก็แซงได้แล้วนี่
ได้เป็นถึงนางแบบโกอินเตอร์เชียวนะ
คิตาโนะ
: อย่าพูดเรื่องนั้นสิค้า~
คนโนะ :
แต่ก็เป็นเรื่องจริงนะ
เธอเป็นคนที่แอนนาซุยเลือก
และครีเอเตอร์ชั้นนำที่นิวยอร์คต่างก็เห็นชอบด้วยกันเชียวนะ
มั่นใจหน่อยสิ
คิตาโนะ
: หยุดเถอะค่า
คนโนะ :
ในตัวคิตาโนะมีพรสวรรค์ที่มหาศาลซ่อนอยู่นะ
แต่ถ้ามันถูกปลุกให้ตื่น
เธออาจจะควบคุมมันไม่ได้
เพราะฉะนั้นตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนซะ
มั่นใจเข้าไว้แล้วพยายามให้เต็มที่
ว่าไง ทำได้มั้ย
คิตาโนะ
: ค่ะ จะพยายามค่ะ
--------------------------------------------
MC : คนถัดมาคุณเทราดะครับ
เทราดะ
: ฉันเป็นคนไม่มีความสามารถทางการสื่อสารเลยค่ะ
ในวงก็มีหลายคนที่ไม่เคยคุยกันมาก่อน
พอโดนบอกว่าที่ไม่ค่อยคุยเป็นเพราะคาแรกเตอร์ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดน่ะค่ะ
ฉันไม่รู้วิธีการเข้าหาคนอื่นเลยค่ะ
คนโนะ :
ผมเองตอนเพิ่งเข้าบริษัทก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
เฮโลตามคนอื่นไม่ได้
ชวนคนอื่นคุยก็ไม่เก่ง
ถึงจะทำงานในส่วนโฆษณาก็เถอะครับ
เทราดะ
: แล้วทำยังไงคะ
คนโนะ :
คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็แย่แน่
แล้วเหมือนสวิตช์ในตัวก็ติดขึ้นมา
กลายเป็นอีกคนเลยล่ะ
เทราดะ
: ฉันเองก็พยายามจะเป็นคนใหม่นะคะ
แต่หลายคนก็บอกว่าฉันเข้าถึงยาก
พอลองไปปรึกษาอิโต้คารินดู
เธอบอกว่าฉันใช้คำสุภาพมากเกินไปจนดูน่ากลัวน่ะค่ะ
คนโนะ :
ไม่น่ากลัวหรอก
แต่พูดไม่สุภาพบ้างก็ได้นะ
เทราดะ
: ได้เหรอคะ
คนโนะ :
ได้สิ ลองคิดว่าเป็นการเรียนรู้ไปแล้วกัน
ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่คงแย่แน่
ก็ต้องลองเปลี่ยนอะไรซักอย่าง
ว่าแต่เธอได้ไปร่วมวงกินข้าวกับเมมเบอร์ตอนทัวร์หน้าร้อนทุกครั้งหรือเปล่า
MC : วงกินข้าว?
เทราดะ
: เป็นการร่วมวงกินข้าวด้วยกันทุกครั้งหลังไลฟ์จบน่ะค่ะ
ถึงจะไม่ได้บังคับว่าต้องเข้า
แต่ก็ไปแทบทุกครั้งค่ะ
คนโนะ :
แต่เห็นเด็กหลายๆคนกลับโรงแรมทันทีนะ
จะว่าไปตอนที่ไปโอซาก้าก็เห็นคารินร่วมโต๊ะกับรุ่นที่หนึ่งนะ
ทั้งๆที่ถ้าอยู่กันเฉพาะรุ่นที่สองอาจจะสนุกกว่าก็ได้แท้ๆ
มันเป็นเพราะความกระตือรือร้นด้วยล่ะนะ
เทราดะ
: ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ
คนโนะ :
แล้วหลังจากนั้นได้คุยกับคนอื่นมากขึ้นหรือเปล่า
เทราดะ
: ก็มากขึ้นนิดหน่อยค่ะ
คนโนะ :
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความสามารถในการสื่อสารกันทั้งนั้นนะ
ก่อนอื่นก็ยิ้มแย้มร่วมสนุกไปกับวงด้วย
ทุกคนก็จะคิดว่ารันเซก็มาด้วยนี่นา
แล้วสุดท้ายทุกคนก็จะเปิดรับเธอเข้าไปเอง
การสื่อสารมันต้องเริ่มจากการที่เธอส่งความรู้สึกออกไปนะ
MC :
แล้วมีวิธีการเปิดสวิตช์ที่ว่าบ้างมั้ยครับ
คนโนะ :
ผมว่าแรงกระตุ้นมันสำคัญกว่าวิธีการ
ถ้ามีเป้าหมายแล้วยังไงก็เปิดสวิตช์นั้นได้แน่ๆครับ
เทราดะ
: ค่ะ
คนโนะ :
ไม่รู้หรอกนะว่าการเป็นซบส.แล้ว
สำหรับเทราดะมันจะเป็นแรงกระตุ้นอันดับหนึ่งหรือเปล่า
แต่ว่านะ ถ้ามีเป้าหมายแล้วก็ตั้งมั่นเอาไว้
ยังไงๆก็สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้แน่นอน
ซักวันเธอจะเป็นเทราดะรันเซที่ใครๆก็อยากจะเข้ามาคุยด้วยก็เป็นไปได้นะ
เทราดะ
: ขอบคุณค่ะ จะพยายามค่ะ
--------------------------------------------
แปลบทสัมภาษณ์จากหนังสือ Nogizaka x Weekly Playboy [หน้า059-062]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น