ฮาชิโมโตะ นานามิ x ชิราอิชิ ไม [นางแบบ]
ฮาชิโมโตะ
: ฉากที่ถ่ายวันนี้เป็นแบบร้านเสื้อผ้าสวยๆที่ผู้หญิงชอบ
ถ้าฉันไม่ได้ถ่ายกับไมยังก็คงจะไม่ไหวหรอก
ชิราอิชิ
: ถ้าเป็นนิตยสารแฟชั่นก็เห็นแบบนี้บ่อยๆอยู่เนอะ
แต่มาถ่ายกันสองคนแบบนี้นี่ไม่เคยเลย
รู้สึกแปลกใหม่ดีนะ
ฮาชิโมโตะ : จริง ว่าแต่หัวข้อในการพูดคุยครั้งนี้คือเรื่อง"นางแบบ"นะ แต่ฉันเองปกติใส่แต่ชุดวอร์ม กังวลกับหัวข้อนี้จัง
ชิราอิชิ
: จำได้มั้ย
ตอนที่เข้าวงมาใหม่ๆ
ที่กลุ่มสมาชิกผู้ใหญ่ไปถ่ายพุริคุระกันที่ชิบุยะน่ะ
ฮาชิโมโตะ : อาา ไปถ่ายมาจริงด้วยสินะ
ชิราอิชิ : ตอนนั้นนานามินใส่ชุดตอนซ้อม
เสื้อยืดกางเกงวอร์มล่ะ
ใส่ชุดธรรมดามากๆ
ฮาชิโมโตะ : แต่ก็มีคนบอกว่าฉันดูเข้ากับชุดแบบนั้นนะ
ชิราอิชิ : เข้ากันจริงๆแหละ
นานามินใส่ชุดแบบนั้นก็ไม่ได้รู้สึกแปลกตาเท่าไหร่
ฮาชิโมโตะ : ก็ไม่ขนาดนั้น พอลองมาคิดดู ก็ตอนนั้นใส่ชุดแบบนั้นขึ้นรถไฟไปชิบุยะซะด้วยสิ คนอื่นเขาเอาชุดไปเปลี่ยนตอนซ้อมกัน ส่วนฉันนี่ใส่ชุดวอร์มสมัยเรียนตอนมัธยมที่ต่างจังหวัดไป เสื้อยืดข้างในก็เป็นชุดไว้ใส่นอน ใส่ทั้งตอนไปและตอนกลับด้วยนะ
ชิราอิชิ : ตอนนั้นฉันก็ใส่ชุดมั่วๆไปเหมือนกัน
ฮาชิโมโตะ : แต่ไมยันก็เปลี่ยนไปเยอะนะ เมื่อก่อนไม่เคยเห็นไมยันใส่กางเกงเลยนะ แต่หลังๆเริ่มใส่กางเกงหลายๆแบบนี่นา
ชิราอิชิ : ฮะๆ
เพราะได้ใส่ชุดที่ไม่เคยใส่มาก่อนตอนถ่ายแบบลงนิตยสารด้วย
เลยรู้สึกสนใจขึ้นมาน่ะ
ตอนอายุ19,20มีแต่ชุดวันพีซเต็มตู้
พออายุเยอะขึ้นก็อยากจะใส่ชุดที่มันสมวัยหน่อย
เลยอยากลองใส่อะไรหลายๆแบบดู
นานามินมีใครในวงที่คิดว่าแต่งตัวดีบ้างมั้ย
ฮาชิโมโตะ : คงจะเป็นอิโต้มาริกะล่ะนะ
ชิราอิชิ : คิดเหมือนกัน มาริกะจะใส่ชุดที่ตัวเองชอบ และเป็นแนวทางของตัวเองเสมอ ทำให้ยิ่งน่าดึงดูดมากๆเลยล่ะ
ฮาชิโมโตะ : ฉันเองไม่ค่อยใส่เสื้อผ้ามือสอง
แต่เห็นมาริกะใส่แล้วดูดี หลังๆคาสึมินก็เปลี่ยนไปเหมือนกันนะ
แรกๆใส่ชุดสไตล์น่ารัก เป็นลายขนมตลอด
ชิราอิชิ : จริงๆด้วย ใส่เสื้อลายช็อกโกแลตบ้างล่ะ จี้รูปขนมบ้างล่ะ
ฮาชิโมโตะ : ใช่ๆ
แต่เดี๋ยวนี้หันมาใส่อะไรที่ออกจากโลกแฟนตาซีมากขึ้น
อย่างรองเท้าผ้าใบเท่ๆ
ชิราอิชิ : เป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วสินะ อาสุกะก็เริ่มใส่ชุดดูผู้ใหญ่ขึ้นเหมือนกัน ชุดสีดำอะไรพวกนี้
ฮาชิโมโตะ : อาสุกะเขาใส่ชุดที่แม่เลือกให้น่ะ
ชิราอิชิ : อิคุจังก็เหมือนกันเนอะ
ฮาชิโมโตะ : มินามิก็เหมือนกัน
แต่ทุกคนดูน่ารักมากๆเลยนะ
ว่าแต่
เวลาไมยันซื้อเสื้อผ้าจะมีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้างมั้ย
ชิราอิชิ : ฉันซื้อเสื้อผ้าผิดๆมาเยอะมาก เวลาซื้อเลยต้องดูว่าจะใส่ได้นานมั้ยด้วย
ฮาชิโมโตะ : สำหรับฉัน
พอรู้สึกตัวอีกทีก็มีแต่เสื้อผ้าสีดำเต็มตู้ เลยต้องบังคับตัวเองใส่ซื้อเสื้อผ้าสีสว่างบ้าง
แต่พอซื้อมาแล้วก็ไม่อยากใส่เท่าไหร่ สุดท้ายก็ไม่ได้ใส่ ตอนนี้เลยเปลี่ยนแนวใหม่
เป็นเลือกเสื้อผ้าตามใจชอบ
แล้วก็เสื้อผ้าที่ซักง่ายๆก็สำคัญเหมือนกันนะ
ชิราอิชิ : อ๊ะ นั่นแหละ
เหมือนกันเลย
ฮาชิโมโตะ : เนอะ ถึงเสื้อจะน่ารักแค่ไหน แต่ถ้าซักยากก็ไม่ซื้อ.... ขอเปลี่ยนเรื่องนะ ไมยันเป็นคนแรกของวงใช่มั้ยล่ะที่ได้เป็นนางแบบนิตยสารRay หลังๆก็มีเมมเบอร์คนอื่นๆได้เป็นนางแบบมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงฉันด้วย เธอคิดว่ายังไงล่ะ
ชิราอิชิ : ดีใจมากๆนะ ถ้าได้เห็นเมมเบอร์คนอื่นลงนิตยสารก็ต้องหยิบมาอ่านแน่นอน พอได้เห็นมุมใหม่ๆของคนๆนั้นก็รู้สึกใจเต้นตึกตักขึ้นมา
ฮาชิโมโตะ : นิตยสารแต่ละเล่มก็มีมุมมองของเมมเบอร์คนนั้นแตกต่างกันออกไป ได้เรียนรู้อะไรมากมายเลยล่ะ
ชิราอิชิ : ใช่ๆ
คิดว่ามีเมมเบอร์คนไหนที่น่าจะมาเป็นนางแบบบ้างมั้ย
ฉันว่าอิคุจังเหมาะมากๆ สไตล์ก็ดูดี แต่งหน้าออกมาก็ดูดีสุดๆ
ฮาชิโมโตะ : ฉันว่าอิโอรินะ ปกติแล้วเธอจะแต่งหน้าบางๆตลอด ถ้าแต่งหน้าดีๆก็จะไปได้หลายลุคล่ะนะ
=============================================
อิโคมะ รินะ x อิคุตะ เอริกะ [โนกิซากะ]
MC :
หัวข้อการพูดคุยครั้งนี้เป็นเรื่องโนกิซากะนะครับ
พวกคุณคิดว่าวงโนกิซากะเป็นวงแบบไหน
อิโคมะ
: วงไอดอลอื่นๆเค้ามักจะมีภาพลักษณ์เป็นวงที่สดใสและสนุกสนาน
แต่ยูนิฟอร์มของวงเราจะเป็นแบบสุขุม
มีเพลงที่มีความหมายแบบไม่สมหวัง
เลยกลายเป็นจุดเด่นของวงเราไปเลยค่ะ
อิคุตะ
: แฟนๆมักจะบอกว่าฉันมีความเป็นโนกิซากะอยู่เรื่อย
แล้วฉันองก็เล่นเปียโนด้วยค่ะ
เลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะบทเพลงที่ส่งผ่านด้วยเสียงเปียโน
แต่อิโคมะจังบอกว่าน่าจะเป็นเพราะภาพลักษณ์ที่ดูบริสุทธิ์มากกว่า
MC :
“ความเป็นโนกิซากะ"ที่ว่ามานั้นเริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
อิคุตะ : ถ้าเห็นอย่างชัดเจนคงจะเป็นเมื่อปีที่แล้วค่ะ
ตอนที่พักกิจกรรมเพื่อเตรียมตัวสอบ
ฉันได้ดูโนกิซากะทางทีวี
รู้สึกว่าบรรยากาศมันเปลี่ยนไปมากค่ะ
ทุกคนน่ารักมาก แค่เห็นก็ชื่นใจแล้ว
ถ้าไม่ได้อยู่วงนี้คงจะเป็นแฟนคลับแน่ๆ
MC : ตอนที่เพิ่งก่อตั้งวง
พวกคุณรู้มั้ยว่าวงตัวเองจะเป็นไอดอลรูปแบบไหน
อิโคมะ : ไม่รู้เลยค่ะ
และไม่เคยคิดด้วยซ้ำไป
อิคุตะ : ตอนแรกๆที่เข้าวง
ฉันพยายามวางตัวเองให้สมเป็นไอดอล
แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ต้องพยายามทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเอง
เลยทำงานอย่างสบายใจค่ะ
MC :
ในกลุ่มต่างๆเช่นคนชอบอนิเมหรือการ์ตูนเขาจะมีพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์กัน
โนกิซากะล่ะมีบ้างมั้ยครับ
อิโคมะ : ที่ๆมีความหมายมากๆในความทรงจำก็คงจะเป็นตึกโนกิซากะค่ะ
สถานที่จัดออดิชั่นครั้งแรก
ถึงที่นั่นจะจัดงานอีเวนท์เยอะแยะ
แต่เพราะตัวเองไปที่นั่น
ชีวิตฉันเลยเปลี่ยนไปค่ะ
อิคุตะ : สำหรับฉันคงจะเป็นที่ศาลเจ้าโนกิซากะ
เพราะไปปีใหม่ทุกปี
แล้วก็มีคำขอพรจากแฟนๆเขียนไว้เต็มเลยค่ะ
MC :
ที่ทราบมาคุณอิโคมะกับคุณอิคุตะมีความสนใจที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนะครับ
ปกติถ้าคุยกันมักจะคุยเรื่องอะไรกันครับ
อิโคมะ : จะว่าไปอิคุจังก็ไม่ได้ดูอนิเม
เลยไม่มีเรื่องที่เราสนใจเหมือนกันน่ะ
แต่เพราะเราไม่ต้องทำตัวเกรงใจกันซักท่าไหร่
เรื่องที่คุยกันก็จะเป็นเรื่องทั่วๆไป
เช่นถามไถ่กันเรื่องงานค่ะ
ถึงเราจะนิสัยและความชอบต่างกัน
แต่เราคิดเรื่องเกี่ยวกับโนกิซากะเหมือนกันค่ะ
อิคุตะ : (พยักหน้า)
พอได้ขึ้นแสดงด้วยกัน
ก็มีเรื่องให้คุยกันมากขึ้น
MC :
คุณอิโคมะกับคุณอิคุตะคิดว่าตัวเองมีอะไรที่เหมือนกันกับอีกฝ่ายบ้างครับ
อิคุตะ : เรื่องการใช้ชีวิต...
อิโคมะ : ใช่ ตอนแรกๆพวกเราเฉิ่มมากค่ะ
55
อิคุตะ : เมมเบอร์คนอื่นๆเขาจะแต่งตัวแต่งหน้ากันดีๆ
มีแค่พวกเราสองคนที่ใส่แว่นไม่แต่งหน้าค่ะ
อิโคมะ : ตอนแรกที่เห็นอิคุจังก็รู้สึกเลยว่าเป็นคนที่สวยมาก
เป็นคนที่ไม่มีทางได้เห็นในอาคิตะแน่ๆ
อิคุตะ : ภาพแรกที่เห็นอิโคมะจังคือ
คนๆนี้หลังค่อมจังนะ
อิโคมะ : จริงๆด้วย
พอรู้ตัวอีกทีก็สนิทกันแล้วเนอะ
เมมเบอร์บางคนก็แอบคุยยากเหมือนกัน
ถ้าเทียบโนกิซากะกับสีก็ต้องสีม่วงนี่ล่ะ
ไม่ใช่สีสว่าง แต่ก็ไม่ใช่สีมืด
MC : คิดยังไงกับโนกิซากะในตอนนี้ครับ
อิคุตะ : ฉันรู้สึกประหลาดใจมากว่าทำไมแฟนๆของโนกิซากะถึงได้ใจดีขนาดนี้
อิโคมะ : อยากขอบคุณทุกคนที่คิดว่าวงเราเป็นวงที่ดี
แต่ฉันคิดว่ามันยังเร็วเกินไปกับคำเหล่านั้นค่ะ
เรากำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์
ทุกๆคนจะพยายามทำให้วงเป็นที่รู้จัก
และเป็นพลังให้วงเราก้าวไปอยู่ในจุดที่สูงกว่าเดิมค่ะ
=============================================
วาคัตสึกิ ยูมิ x ซากุไร เรย์กะ [มิตรภาพ]
MC :
ครั้งนี้เรามาถ่ายแบบกันในหัวข้อมิตรภาพของผู้หญิง
เป็นอย่างไรบ้างครับ
วาคัตสึกิ
: พอได้รู้ว่าถ่ายแบบในธีมนี้คู่กับซากุไร
ก็รู้เลยว่ากราเวียร์ครั้งนี้ต้องดีไม่แพ้ครั้งไหนๆแน่นอนค่ะ
ซากุไร
: เย้
วาคัตสึกิ : และก็เน้นว่าเป็น"มิตรภาพ"
ไม่ใช่"คู่รัก"ด้วยค่ะ
MC : เข้าใจแล้วครับ
ครั้งนี้เรามาคุยเรื่องมิตรภาพกันนะครับ
แล้วความสัมพันธ์ของพวกคุณทั้งคู่เริ่มต้นได้อย่างไรครับ
วาคัตสึกิ : เป็นเพราะเราอายุเท่ากันและความสูงใกล้เคียงกันค่ะ
เลยได้นั่งข้างกันบ่อยๆ
ได้ถ่ายรูปด้วยกัน เลยสนิทกันค่ะ
ซากุไร : เราทั้งคู่เรียนโรงเรียนหญิงล้วนคาทอลิกเหมือนกันด้วยค่ะ
วาคัตสึกิ : ใช่ๆ
เลยรู้เรื่องจิปาถะในโรงเรียนคาทอลิคเยอะมาก
พอฉันร้องเพลงสวดท่อนนึง
ซากุไรก็จะร้องตามได้ทันทีเลยค่ะ
MC : มีอะไรที่เหมือนกันเยอะนะครับ
นิสัยก็คงจะเหมือนกัน
วาคัตสึกิ&ซากุไร
: ตรงข้ามกันเลยค่ะ
ซากุไร : วากะเค้าจะไม่วางของเรี่ยราด
แต่ฉันใช้พื้นที่ถึง2ใน3ของโต๊ะที่ใช้ร่วมกันน่ะค่ะ
วาคัตสึกิ : จริงด้วยสิ
ฉันถนัดเรื่องจัดของค่ะ
แต่ช่วงนี้ไม่ได้เก็บของให้เรย์กะเลย
แล้วก็ไม่ได้เตือนด้วย
ซากุไร : ช่วงนี้เย็นชาจังนะ!
เมื่อก่อนยังเคยพูดเล่นๆว่าให้ฉันใช้พื้นที่ได้ถึงแค่ไหนอยู่เลย
ช่วงนี้กลับไม่เห็นทำ
วาคัตสึกิ : ก็ให้คิดไงว่าถ้าไม่เตือนนั่นแหละคือความจริงจัง
นี่อยู่ในช่วง"เดือนแห่งการเสริมความแข็งแกร่งให้คุณกัปตัน"อยู่นะ
ซากุไร : เอ๋!
MC : ทั้งคู่เคยไปทานข้าวด้วยกัน
เคยนอนค้างบ้านกันมั้ยครับ
วาคัตสึกิ : เธอเคยมาค้างที่บ้านฉันนี่
ซากุไร : เคยๆ เธอบอกให้ฉันมานอนบนเตียง
แต่วากะกลับนอนพื้นซะงั้น
ฉันอุตส่าห์บอกว่าให้มานอนข้างๆกันแล้วนะ
วาคัตสึกิ : (มองอย่างไร้ความรู้สึก)
ซากุไร : หุหุ
MC : ปกติทั้งสองคนคุยเรื่องอะไรกันครับ
ซากุไร : เรื่องอนาคต..
วาคัตสึกิ : พออายุเลย20ก็จะคุยเรื่องจะทำยังไงกับวงนี้ดี
แต่เรย์กะก็เอาแต่พูดเล่น
ทำท่าเอามือมากำตรงแถวๆปาก
แล้วแอ๊บพูดว่า"ยังไงเหรอ~?”อยู่เรื่อย
ซากุไร : แต่ตอนที่อยู่ห้องเดียวกันในโรงแรมก็คุยเรื่องนี้จริงจังนะ
วาคัตสึกิ : ก็จริงนะ
ซากุไร : เพราะไม่สว่างด้วยล่ะ
วาคัตสึกิ : ปัญหาคือระบบแสงเหรอ!?
MC :
ตอนเข้านอนแล้วมีโมเมนต์คุยกันว่า"ยังไม่หลับใช่มั้ย?”
อะไรแบบนี้มั้ย
วาคัตสึกิ : ซากุไรเป็นแบบนั้นบ่อย
แต่ช่วงนี้เป็นช่วง"เดือนแห่งการเสริมความแข็งแกร่งให้คุณกัปตัน"
เลยตอบกลับไปว่า
"รีบๆนอนซะ"
ซากุไร : แล้วฉันก็จะโดดลงไปทับแล้วปลุกให้ตื่นค่ะ
วาคัตสึกิ : อืม แล้วก็นอนทั้งๆอย่างนั้นเลย
แซวบ้างว่าทำไมวันนี้มันหนักจังน้า
สงสัยคงเหนื่อยเกินไปล่ะมั้ง
MC : นอกจากทานข้าวแล้ว
ทั้งคู่มีที่ๆอยากจะไปด้วยกันมั้ยครับ
ซากุไร : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ!
วาคัตสึกิ : เพราะไม่ชอบที่ร้อนๆกับที่มีแดดสินะ
ซากุไร : ใช่ หนาวๆก็ไม่ชอบนะ
วาคัตสึกิ : ถ้าอยู่ในพิพิธภัณฑ์นานๆเดี๋ยวก็บ่นว่าหนาวอยู่ดีนั่นแหละน่า
ซากุไร : ถึงตอนนั้นก็จะยืมเสื้อของวากะใส่
หุหุ
วาคัตสึกิ : ไม่เอาอ่ะ
เดี๋ยวจะทำเป็นให้ยืมแล้วเอามาพันเอวตัวเองแทนแล้วกัน
ซากุไร : โถ่ อุตส่าห์รอ...
MC :
จะว่าไปเด็กผู้หญิงมักจะมีของใช้ที่เหมือนกับเพื่อน
แล้วทั้งคู่มีมั้ยครับ
ซากุไร : ตอนวันเกิดฉัน
วากะให้แหวนคู่มาด้วยล่ะ
เป็นลายดอกไม้ผีเสื้อแล้วก็หิน
วาคัตสึกิ : (หยิบแหวนมาโชว์)
ทำตรงส่วนผีเสื้อหายไปซะแล้วสิ
ซากุไร : โหยย ของสำคัญนะ!!
วาคัตสึกิ : อืม ไม่เคยสวมเลยล่ะ
ซากุไร : ฉันก็เหมือนกัน
กลัวว่าจะทำหายเลยเอาไปวางที่ห้อง
ความจริงแล้วที่ห้องมีโซนของวากะด้วยนะ
มีลิปสติกที่ได้จากวากะวางไว้ด้วย
MC :
พอจะเข้าใจความสนิทของคุณทั้งคู่แล้วครับ
สุดท้ายนี้ความสัมพันธ์ของพวกคุณอยู่ในฐานะอะไรครับ
วาคัตสึกิ : จุดที่ทำให้ฉันชอบซากุไร....ไม่มีเลยค่ะ
ซากุไร : (อึ้ง)
วาคัตสึกิ :
ความรู้สึกเหมือนครอบครัวที่เราไม่สามารถอธิบายได้ว่าเราชอบเขาตรงไหนน่ะค่ะ
ซากุไรเป็นเพื่อนที่คอยรับฟังฉัน
เธอเลยเป็นคนสำคัญที่รับฟังเพื่อนที่น่ารำคาญอย่างฉัน
ซากุไร : ฉันด้วยค่ะ
ไม่ใช่ว่าเราชอบอีกฝ่ายตรงไหน
แต่มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น
วาคัตสึกิ : เพราะซากุไรเป็นกัปตันด้วย
เลยคอยรับคำปรึกษาเสมอ
ฟังแม้แต่เรื่องบ่นจุกจิก
ซากุไร : เพราะมีวากะอยู่ด้วย
ฉันถึงก้าวมาเป็นกัปตันต่อไปได้
สบายใจเพราะเวลาที่มีปัญหาก็มีวากะคอยช่วยเหลือ
จากนี้ก็ขอพึ่งพาต่อไปนะคะ
=============================================
อาคิโมโตะ มานัตสึ x ฟุคุกาวะ ไม [ไอดอล]
MC :
ก่อนอื่นขอทราบความรู้สึกที่มาถ่ายกราเวียร์ครั้งนี้หน่อยครับ
อาคิโมโตะ
: ถ้าทำให้คนอ่านรู้สึกตื่นเต้นก็คงจะดีนะคะ
เพราะถ่ายกับไมไมในธีมแย่งผู้ชายกัน
และก็อยากจะนำเสนอว่าฉันกับไมไมสนิทกันด้วยค่ะ
MC : ถ้าแย่งผู้ชายกันจริงๆ
คิดว่าฝั่งไหนจะชนะครับ
ฟุคุกาวะ
: ถึงมานัตสึดูเป็นปีศาจน้อย
แต่ความจริงไม่ได้แรงขนาดนั้นหรอกค่ะ
เป็นคนอ่อนโยนมากๆเลยค่ะ
อาคิโมโตะ
: ไมไมพูดถึงฉันขนาดนี้
(ร้องไห้) ใจดีจัง!
ฟุคุกาวะ
: เพราะฉะนั้นคงจะเสียสละให้เพื่อนน่ะค่ะ
ยอมถอยห่างด้วยกันทั้งคู่
MC :
แล้วถ้าอยากจะเข้าถึงเขาจะทำอย่างไรครับ
อาคิโมโตะ
: ฉันจะเข้าไปหาเค้า
เข้าไปปรึกษาเรื่องนู่นนี่
เอาความลับไปปรึกษาค่ะ
ฟุคุกาวะ
: ส่วนฉันก่อนอื่นจะมองเค้าห่างๆ
แล้วศึกษาดูว่าเค้ามีความสนใจในเรื่องอะไรค่ะ
MC : ตรงข้ามกันเลยนะครับเนี่ย
ถ่ายแบบครั้งนี้ได้คอสเพลย์เป็นนางฟ้ากับปีศาจด้วย
อาคิโมโตะ
: สนุกมากเลยค่ะ
หัวเราะตลอดเลย
ได้แต่งเป็นปีศาจเลยไม่ต้องแคร์เรื่องมารยาทอะไรมาก
ตอนถ่ายแบบเลยทำตัวตามสบายค่ะ
ฟุคุกาวะ
: ตอนในห้องแต่งตัว
สตาฟมาบอกฉันว่าต้องใส่ปีกใหญ่ๆถ่ายแบบด้วย
ฉันตกใจมากเลยค่ะ
MC :
ช่วยบอกถึงความเป็นนางฟ้าและปีศาจในตัวของอีกฝ่ายให้เราได้ทราบหน่อยครับ
ฟุคุกาวะ
:
ส่วนที่เป็นนางฟ้าของมานัตสึคือจะเป็นเหมือนคุณแม่เวลาที่เม็มเบอร์ท้อแท้หรือร้องไห้ค่ะ
ส่วนปีศาจคงจะเป็นเรื่องที่ชอบใส่ชุดเปิดไหล่มั้งคะ
ตอนซ้อมเต้นก็ชอบใส่ชุดรัดๆมา
MC :
แล้วคุณฟุคากาวะเป็นอย่างไรบ้างครับ?
อาคิโมโตะ
: ไมไมเป็นนางฟ้าทุกตารางนิ้วเลยค่ะ
นิสัยก็ดี อ่อนโยนกับทุกคน
เป็นมิตรกับทุกคน
ถ้าจุดที่เป็นปีศาจก็คงชอบเข้ามาถามนู่นนี่เรื่องของฉันค่ะ
ทำหน้าตาน่ารักเชียว
ถึงจะรู้ว่ามีพิษซ่อนอยู่แต่ก็ทนไม่ไหวจริงๆค่ะ
MC :
ทั้งสองคนมีอะไรที่เหมือนกันบ้างมั้ยครับ
ฟุคุกาวะ
: เราสองคนมีบรรยากาศที่คล้ายกันค่ะ
อยู่ด้วยกันได้สบาย
เวลาเหนื่อยๆก็จะเรียกว่า"จัง"
ก่อนหน้านี้เราซ้อมกันเหนื่อยมาก
เลยเรียกมานะจังเข้าไปกอดค่ะ
อาคิโมโตะ
: ฉันก็เรียกไมจางเหมือนกันค่ะ
MC : ไอดอลในอุดมคติเป็นอย่างไรเหรอครับ
ฟุคุกาวะ
: ถ้าเป็นในหมู่เมมเบอร์
มานัตสึเนี่ยแหละไอดอลแท้
และก็ฮิเมตันด้วย
ส่วนฉันไม่คิดว่าตัวเองเหมือนไอดอลเลยค่ะ
แต่เวลาร้องเพลงRomance no Start
แล้วแฟนตะโกนกลับมาว่าสุคิ
ก็รู้สึกเหมือนกันนะว่าตัวเองเป็นไอดอล
อาคิโมโตะ
: ฉันเองไม่มีเป้าหมายเลยค่ะ
ไม่คิดเรื่องการเป็นไอดอลในอุดมคติเลย
คิดแค่ว่าทำอย่างไรดีให้แฟนๆมีความสุข
ไม่เอาความกลัดกลุ้มขึ้นเวลา
จะปลุกตัวเองตลอดว่า
มานัตตันเป็นไอดอลนะ!
MC : จุดเด่นของโนกิซากะคืออะไรครับ?
ฟุคุกาวะ
: มีความเป็นญี่ปุ่น
ขนาดชื่อวงยังใช้ตัวอักษรคันจิ
สีของวงก็เป็นสีม่วง
ซึ่งไม่ใช่สีสว่างเกินไป
ธรรมดามากเลยล่ะ
อาคิโมโตะ
: เมมเบอร์ส่วนใหญ่ก็เป็นนางฟ้ากันทั้งนั้น
คนในวงอ่อนโยนมากเลยค่ะ
ฟุคุกาวะ
: เป็นสีวงที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกรุนแรง
เป็นสีที่ละมุนค่ะ
MC :
มีเป้าหมายในการเป็นไอดอลอย่างไรบ้างครับ
ฟุคุกาวะ
: ทำทุกอย่างด้วยความรู้สึกสนุกค่ะ
ยืนให้ได้ด้วยตัวเอง
และบางครั้งก็พึ่งพาคนอื่นด้วย
ตอนแรกฉันไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็นเลยค่ะ
แต่แฟนๆคอยบอกเสมอว่าให้ฉันลองพึ่งพาคนอื่นบ้าง
เวลาเศร้าก็มีคนมาคอมเมนต์ว่าจะคอยเชียร์ฉันเสมอไม่ว่าฉันจะอยู่ตรงไหนก็ตาม
มันช่วยฉันได้มากเลยค่ะ
จากนั้นเลยมีความคิดอยากจะพึ่งพาในส่วนที่ตัวเองทำไม่ได้เหมือนกัน
อาคิโมโตะ
: ฉันจะไม่เบื่อตัวเองค่ะ
ตอนไปออกรายการฉันจะถูกมองว่าเป็นคนร้ายๆ
ยังไงๆก็จะ"สุคคิ้วน์"ไปเรื่อยๆตราบใดที่ยังมีคนขออยู่ค่ะ
และก็ถึงฉันจะดูเป็นคนเข้มแข็งแต่ก็อ่อนแอแบบผู้หญิงทั่วไปเหมือนกัน
เลยคิดว่าจะดำเนินแผน"มานัตตันนัมเบอร์ทู"ค่ะ
MC :
ซิงเกิลที่13ได้ประกาศเซ็นบัตสึออกมาแล้ว
ฟุคุกาวะ
: ปกติฉันจะได้ยืนแต่แถว2กับแถว3
ครั้งนี้กลับไปยืนแถวหน้าสุด
เป็นครั้งแรกที่เต้นแล้วไม่มีใครยืนอยู่ข้างหน้าค่ะ
ตื่นเต้นมาก ได้เห็นแฟนๆมีความสุขฉันเองก็ดีใจค่ะ
อาคิโมโตะ
: ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากเลยค่ะ
ทั้งมีไมไมกับมิสะมิสะที่เพิ่งเคยอยู่แถวหน้า
และมินามิกับอาสุกะที่ยืนขนาบข้างในแถวสอง
ฉันเองในฐานะคนที่มีประสบการณ์มาก่อนก็จะคอยช่วยเหลือเมมเบอร์ที่ยืนแถวหน้า
และเป็นแบบอย่างให้กับคนที่อยู่แถวหลังค่ะ
จะเป็นฐานของวงนี้
และผลักดันวงให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเลค่ะ
=============================================
แปลจาก Nogizaka46 x Weekly Playboy 2015
หน้า 034-041
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น