9.24.2558

[แปลบทสัมภาษณ์] Konno Yoshio no Soudanshitsu [059-062]



*ในบทสัมภาษณ์นี้จะมีผู้ถามด้วยนะครับ ผมขอแทนด้วยตัวย่อMCแล้วกัน

-ศูนย์ปรึกษาปัญหาชีวิตของคนโนะ โยชิโอะ-

      โนกิซากะรุ่น2ที่โดดเด่นทั้งสามคน พวกเธอมีปัญหาหนักอกหนักใจอย่างลับๆ เพราะฉะนั้นเราจึงขอเปิดห้องให้คำปรึกษากับผู้จัดการวงโนกิซากะ46 "คุณคนโนะโยชิโอะ" แล้วสุดท้ายปัญหาของทุกคนจะสามารถคลี่คลายลงได้หรือไม่!?

MC : เชิญคุณโฮริเข้ามาก่อนเลยครับ

โฮริ : ฉันมีเรื่องอยากจะถามค่ะ ทำไมฉันถึงผ่านออดิชั่นมาได้ทั้งๆที่ไม่ได้โดดเด่นเลยคะ มันน่าประหลาดมากค่ะ

คนโนะ : ไม่ๆ มิโอนะน่ะโดดเด่นมากตั้งแต่ต้นเลยล่ะ

โฮริ : เอ๋! งั้นหรือคะ?

คนโนะ : โดดเด่นอันดับหนึ่งเลยล่ะ

โฮริ : อ้า อ้า..

คนโนะ : ตอนสัมภาษณ์ ผมคิดว่าเด็กคนนี้มีอะไรพิเศษมากมายเลยล่ะ แต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าอะไร แต่นั่นก็ทำให้พวกเราจดจำตัวเธอได้ครับ

MC : ช่วยอธิบายทีครับว่าหมายความว่าอย่างไร

คนโนะ : เธอไม่ได้ดูมุ่งมั่นเท่าไหร่ ก็จริงอยู่ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจ แต่สำหรับเธอมันกลับกัน ยิ่งทำให้ตัวเธอเด่นขึ้นมากๆเลยล่ะ

MC : คุณโฮริทำอะไรบ้างครับในตอนนั้น

โฮริ : ตอนให้แสดงความสามารถพิเศษฉันทำอะไรไม่เป็นเลยค่ะ คิดอย่างเดียวว่าต้องทำให้กรรมการประทับใจให้ได้ แต่ก็นึกเรื่องตลกๆไม่ออก สุดท้ายเลยพูดเรื่องไร้สาระอย่าง "ฉันเป็นคนผมบางค่ะ" อะไรทำนองนี้ไปค่ะ

คนโนะ : อืม เป็นการเล่าเรื่องไร้สาระที่หน้าตายมากครับ เธอเล่าได้อย่างไม่รู้สึกอะไรเลยครับ ซึ่งก็ตรงกับมิโอนะที่ทุกคนรู้จักกันในตอนนี้ใช่มั้ยล่ะครับ

MC : สิ่งที่คุณคนโนะมองเห็นความโดดเด่นในตัวเด็กๆตั้งแต่แรกคืออะไรครับ

คนโนะ : บอกชัดๆไม่ได้น่ะครับ ก็ดูโดยรวมตั้งแต่รูปลักษณ์ไปจนถึงบรรยากาศรอบตัวเธอทั้งหมดครับ

MC : แล้วมีทริคในการสร้างความประทับใจมั้ยครับ

คนโนะ : อืม... ถ้าเตรียมมาดีๆมันจะไม่ค่อยน่าสนใจครับ ตัวเองที่เสแสร้งสร้างขึ้นมามันไม่ทำให้เราประทับใจครับ

MC : ในทางกลับกัน ถ้าแสดงความจริงใจออกมาจะดีใช่มั้ยครับ

คนโนะ : ใช่ครับ มันน่าสนใจกว่า ไม่ต้องทำอะไรเกินความสามารถ พวกเราดูออกครับ

MC : ดูออกเหรอครับ

โฮริ : ไม่รู้สินะคะ

MC : คงจะกังวลว่าทำไมถึงได้เข้ามาตรงนี้สินะครับ แต่ยังไงๆก็ต้องมีเหตุผลอยู่ด้วยแน่นอน เพราะฉะนั้นมั่นใจในตัวเองเข้าไว้นะครับ

โฮริ : ขอบคุณค่ะ ขอถามอีกข้อได้มั้ยคะ จากนี้รุ่นที่2ควรจะทำยังไงต่อไปดีคะ

คนโนะ : แล้วมิโอนะคิดว่ายังไง

โฮริ : พวกเราควรนำโนกิซากะให้ก้าวสูงขึ้นไป ถึงตอนนี้จะมีรุ่นที่1เป็นหลัก แต่รุ่น2ก็ต้องพยายามเต็มที่ เพื่อปกป้องคำว่าโนกิซากะเอาไว้ค่ะ

คนโนะ : เทียบกันแล้วรุ่น2ก็ออกมาข้างหน้าน้อยกว่าจริงๆแหละครับ เพราะออร่าของรุ่นหนึ่งเขาได้เปล่งออกมาแล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปทุกคนก็จะมีออร่าออกมากันแหละครับ

MC : ทำไมคุณโฮริถึงอยากจะถามเกี่ยวกับรุ่นที่2ล่ะครับ

โฮริ : ก็เป็นเพราะรุ่นที่2ไม่ค่อยมีใครได้เป็นซบส.น่ะค่ะ แต่ว่าพวกเราเองก็รู้ตัวเองนะคะว่ายังขาดอะไรอยู่

MC : แล้วขาดอะไรครับ

โฮริ : ความมั่นใจค่ะ พวกเรายังแสดงความกังวลใจออกมาทางสีหน้าบ่อยๆ ซึ่งนั่นจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี

คนโนะ : มิโอนะเป็นรุ่นสองที่ใกล้ชิดกับผมที่สุด เพราะงั้นผมฝากไปบอกทุกคนว่ามีความมั่นใจกันหน่อย แล้วเปล่งประกายไปด้วยกันนะ

MC : มีวิธีสร้างความมั่นใจมั้ยครับ

คนโนะ : มันขึ้นอยู่กับแฟนๆและคนรอบข้าง เช่นขายบัตรจับมือหมด หรือถ่ายรูปออกมาดี หรือได้รับความวิจารณ์ที่ดีๆ ทั้งหมดนี้มีส่วนให้เรามีความมั่นใจขึ้นมานะ

โฮริ : เข้าใจแล้วค่ะ

คนโนะ : รุ่นที่1เค้าทดลองซ้ำๆกันมาหลายรอบจนได้ เพราะงั้นรุ่นที่2ที่มีความมั่นใจก็สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เช่นกัน ต่อไปไม่ต้องสนว่าเป็นรุ่นหนึ่งหรือรุ่นสองแล้ว

--------------------------------------------

MC : ต่อไปเป็นคุณคิตาโนะครับ

คิตาโนะ : ในซิงเกิ้ลที่แล้ว จู่ๆฉันก็ถูกเลือกให้ยืนแถวหน้าในเพลงอันเดอร์ [Wakaregiwa Motto Suki ni Nareru] ฉันเลยสงสัยค่ะว่าทำไมถึงได้เป็นฉัน

คนโนะ : เมื่อก่อนมีนักฟุตบอลที่รับส่งลูกอย่างดี แต่พอชู๊ตกลับไม่เข้าประตู พอไปถามเขาว่าทำไมถึงยิงไม่เข้า เขาก็ตอบว่าก็เพราะส่งลูกมาเร็วเกินไปน่ะสิ

คิตาโนะ : หมายความว่ายังไงเหรอคะ

คนโนะ : หมายความว่ายังไงเหรอ เหตุผลของการที่ได้มายืนแถวหน้ามันไม่สำคัญอะไรทั้งนั้น สิ่งสำคัญคือ เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ตรงนี้เราสามารถสร้างความประทับใจได้มั้ย ยิงเข้าประตูได้หรือเปล่า ตรงนี้มันสำคัญกว่าน่ะ

คิตาโนะ : .......

คนโนะ : ถ้าถามเหตุผลจริงๆคงเป็นความบังเอิญด้วยล่ะ ที่โชคมันหมุนมาทางเธอ แล้วผลลัพธ์ล่ะเป็นยังไงบ้าง?

คิตาโนะ : ฉันก็...

คนโนะ : อืม นั่นแหละที่อยากจะชม จากคนที่เต้นไม่ได้เรื่องเลยจนเอาจนได้ ที่จริงผมเองก็แอบเป็นห่วงอยู่เหมือนกันนะ แล้วเธอรู้สึกอย่างไรกับการได้มายืนแถวหน้าบ้าง

คิตาโนะ : เป็นเป้าหมายของฉันมาตลอดเลยค่ะ ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จแล้ว

คนโนะ : งั้นพอแค่นี้มั้ย

คิตาโนะ : ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ ฉันเคยรู้สึกสบายใจที่เดินนำหน้ารุ่นที่2ทุกคนก้าวนึงมาก่อน แต่พอรุ่น2ทุกคนเลื่อนขั้นจากเคงคิวเป็นสมาชิกเต็มตัว ก็พูดอย่างสบายๆไม่ได้อีกแล้ว

คนโนะ : เพราะเธอเคยเป็นนัมเบอร์ทูของรุ่นที่2 เพราะฉะนั้นชะล่าใจไม่ได้เชียวนะ

คิตาโนะ : ฉันคิดมาตลอดว่าควรจะยืนจุดไหนดีนะ เข้าวงมา1ปีกว่า แต่ก็เอื้อมไปแตะตำแหน่งซบส.ไม่ถึงซักที เริ่มจะถอดใจแล้วล่ะค่ะ จู่ๆก็อยากจะร้องไห้

คนโนะ : การที่เคยเป็นซบส.มาก่อน การจะเข้าไปใหม่อีกครั้งมันเป็นเรื่องยาก ต่อไปก็คิดว่าจะทำอะไรตามใจตัวเองใช่มั้ยล่ะ ก้าวขึ้นไปให้ขึ้นจุดสูงสุดและเป็นตัวของตัวเอง จนกว่าจะได้เป็นซบส.ก็ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด

คิตาโนะ : (พยักหน้า) ดูพวกรุ่นพี่ก็คิดตลอดเลยค่ะว่า อยากจะเป็นแบบนั้นบ้างจัง ซักวันหนึ่งจะแซงขึ้นไปให้ได้เลย

คนโนะ : แต่ก็แซงได้แล้วนี่ ได้เป็นถึงนางแบบโกอินเตอร์เชียวนะ

คิตาโนะ : อย่าพูดเรื่องนั้นสิค้า~

คนโนะ : แต่ก็เป็นเรื่องจริงนะ เธอเป็นคนที่แอนนาซุยเลือก และครีเอเตอร์ชั้นนำที่นิวยอร์คต่างก็เห็นชอบด้วยกันเชียวนะ มั่นใจหน่อยสิ

คิตาโนะ : หยุดเถอะค่า

คนโนะ : ในตัวคิตาโนะมีพรสวรรค์ที่มหาศาลซ่อนอยู่นะ แต่ถ้ามันถูกปลุกให้ตื่น เธออาจจะควบคุมมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนซะ มั่นใจเข้าไว้แล้วพยายามให้เต็มที่ ว่าไง ทำได้มั้ย

คิตาโนะ : ค่ะ จะพยายามค่ะ

--------------------------------------------

MC : คนถัดมาคุณเทราดะครับ

เทราดะ : ฉันเป็นคนไม่มีความสามารถทางการสื่อสารเลยค่ะ ในวงก็มีหลายคนที่ไม่เคยคุยกันมาก่อน พอโดนบอกว่าที่ไม่ค่อยคุยเป็นเพราะคาแรกเตอร์ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดน่ะค่ะ ฉันไม่รู้วิธีการเข้าหาคนอื่นเลยค่ะ

คนโนะ : ผมเองตอนเพิ่งเข้าบริษัทก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน เฮโลตามคนอื่นไม่ได้ ชวนคนอื่นคุยก็ไม่เก่ง ถึงจะทำงานในส่วนโฆษณาก็เถอะครับ

เทราดะ : แล้วทำยังไงคะ

คนโนะ : คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็แย่แน่ แล้วเหมือนสวิตช์ในตัวก็ติดขึ้นมา กลายเป็นอีกคนเลยล่ะ

เทราดะ : ฉันเองก็พยายามจะเป็นคนใหม่นะคะ แต่หลายคนก็บอกว่าฉันเข้าถึงยาก พอลองไปปรึกษาอิโต้คารินดู เธอบอกว่าฉันใช้คำสุภาพมากเกินไปจนดูน่ากลัวน่ะค่ะ

คนโนะ : ไม่น่ากลัวหรอก แต่พูดไม่สุภาพบ้างก็ได้นะ

เทราดะ : ได้เหรอคะ

คนโนะ : ได้สิ ลองคิดว่าเป็นการเรียนรู้ไปแล้วกัน ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่คงแย่แน่ ก็ต้องลองเปลี่ยนอะไรซักอย่าง ว่าแต่เธอได้ไปร่วมวงกินข้าวกับเมมเบอร์ตอนทัวร์หน้าร้อนทุกครั้งหรือเปล่า

MC : วงกินข้าว?

เทราดะ : เป็นการร่วมวงกินข้าวด้วยกันทุกครั้งหลังไลฟ์จบน่ะค่ะ ถึงจะไม่ได้บังคับว่าต้องเข้า แต่ก็ไปแทบทุกครั้งค่ะ

คนโนะ : แต่เห็นเด็กหลายๆคนกลับโรงแรมทันทีนะ จะว่าไปตอนที่ไปโอซาก้าก็เห็นคารินร่วมโต๊ะกับรุ่นที่หนึ่งนะ ทั้งๆที่ถ้าอยู่กันเฉพาะรุ่นที่สองอาจจะสนุกกว่าก็ได้แท้ๆ มันเป็นเพราะความกระตือรือร้นด้วยล่ะนะ

เทราดะ : ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ

คนโนะ : แล้วหลังจากนั้นได้คุยกับคนอื่นมากขึ้นหรือเปล่า

เทราดะ : ก็มากขึ้นนิดหน่อยค่ะ

คนโนะ : ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความสามารถในการสื่อสารกันทั้งนั้นนะ ก่อนอื่นก็ยิ้มแย้มร่วมสนุกไปกับวงด้วย ทุกคนก็จะคิดว่ารันเซก็มาด้วยนี่นา แล้วสุดท้ายทุกคนก็จะเปิดรับเธอเข้าไปเอง การสื่อสารมันต้องเริ่มจากการที่เธอส่งความรู้สึกออกไปนะ

MC : แล้วมีวิธีการเปิดสวิตช์ที่ว่าบ้างมั้ยครับ

คนโนะ : ผมว่าแรงกระตุ้นมันสำคัญกว่าวิธีการ ถ้ามีเป้าหมายแล้วยังไงก็เปิดสวิตช์นั้นได้แน่ๆครับ

เทราดะ : ค่ะ

คนโนะ : ไม่รู้หรอกนะว่าการเป็นซบส.แล้ว สำหรับเทราดะมันจะเป็นแรงกระตุ้นอันดับหนึ่งหรือเปล่า แต่ว่านะ ถ้ามีเป้าหมายแล้วก็ตั้งมั่นเอาไว้ ยังไงๆก็สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้แน่นอน ซักวันเธอจะเป็นเทราดะรันเซที่ใครๆก็อยากจะเข้ามาคุยด้วยก็เป็นไปได้นะ

เทราดะ : ขอบคุณค่ะ จะพยายามค่ะ

--------------------------------------------

แปลบทสัมภาษณ์จากหนังสือ Nogizaka x Weekly Playboy [หน้า059-062]


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น