9.22.2558

[แปลบทสัมภาษณ์] Another Story (054-058)




Nogizaka46 Monogatari
Another Story
[ค่ำคืนก่อนไลฟ์อันเดอร์ ~ในความมืดมิดก่อนฟ้าสาง~]

    ในโนกิซากะ46นั้น มีการแสดงที่ชื่อว่า"อันเดอร์ไลฟ์"อยู่ ซึ่งหมายถึงการแสดงที่จัดขึ้นโดยผู้ที่ไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นซบส.เท่านั้น แต่เป็นที่ร่ำลือกันว่า การแสดงของพวกเธอมีพลังเหนือกว่าเหล่าซบส. และได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม

    “เราจะขยี้แบบแผนของอันเดอร์ทิ้ง"
    พวกเราไม่ได้เป็นตัวสำรอง"
    เหล่าอันเดอร์ที่ยืนอยู่ในจุดที่แสงส่องไปไม่ถึง ได้สร้างความเชื่อมั่นเหล่านี้ขึ้นมา และสร้างจุดยืนที่เป็นของพวกเธอเองเท่านั้น

    อันเดอร์ไลฟ์เริ่มต้นในช่วงซิงเกิ้ลที่ 8 [Kitzuitara Kataomoi] และนั่นเองก็เป็นจุดเริ่มเรื่องของ Another Story

----------------------------

โนโจ อามิ - ความท้อแท้ของผู้มากประสบการณ์
    โนโจอามิในวัยเด็ก เธอมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงตั้งแต่ก่อนขึ้นชั้นประถม โดยแม่ของเธอให้เธอใช้เวลาทั้งสัปดาห์ไปกับการเรียนทั้งร้องเพลง เต้น การแสดงต่างๆตลอด6ปีในช่วงประถมศึกษา

    ครั้งแรกที่เธอเข้ารับการออดิชั่นคือช่วงประถม3 ในละครเวทีเรื่อง "อานี" ละครเวทีที่เด็กผู้หญิงมากมายต่างชื่นชอบ แต่ผลปรากฏว่าเธอตกรอบ2 และได้สูญเสียความมั่นใจไป

    หลังจากนั้นเธอเข้าออดิชั่นงานต่างๆในวงการบันเทิงมาเรื่อยๆ โดยเน้นงานนักแสดงเป็นหลัก เธอผ่านเข้าถึงรอบสุดท้ายอยู่หลายครั้ง และช่วงหนึ่งเธอยังเคยสังกัดกลุ่มไอดอลหนึ่งในเกาะคิวชูด้วย

    ช่วงนั้น บริษัทที่สังกัดเขาบอกว่า อยากจะสร้างไอดอลกรุ๊ปที่จังหวัดฟุคุโอกะ เลยอยากให้ไปอยู่ที่นั่น แต่ว่าฉันอาศัยอยู่ที่นี่(แถบโตเกียว) เลยไม่มีโอกาสได้ไปแสดงซักเท่าไหร่ แต่ทั้งอย่างนั้น ก็ยังถูกเลือกให้เป็นเซ็นเตอร์ค่ะ"

    และแล้วโนโจ ที่เคยผ่านทั้งการเรียนการแสดงและเคยเป็นเซนเตอร์วงไอดอล ก็ผ่านออดิชั่นโนกิซากะ46 ในช่วงหน้าร้อนของมัธยมปลายปีที่1

    ท่ามกลางเมมเบอร์ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน โนโจผู้ผ่านประสบการณ์มามากมายนั้นมีความมั่นใจไม่น้อย แต่ทว่าความมั่นใจเหล่านั้นก็ค่อยๆถูกทำลายลงไป

    นอกจากซิงเกิ้ลแรก [Guruguru Curtain] และซิงเกิ้ลที่4 [Seifuku no Mannequin] แล้ว เธอก็ไม่เคยถูกเลือกให้เป็นซบส.เลย

    ตอนนั้นอันเดอร์ไม่มีงานอะไรให้ทำเลยจริงๆค่ะ ช่วงนั้นเลยไปโรงเรียนตามปกติ แล้วก็สงสัยว่าตัวเองอยู่ในวงโนกิซากะ46หรือเปล่านะ ตอนถูกเลือกเป็นซบส.อีกครั้งในซิงเกิ้ลที่4 บานาน่าแมนบอกว่าฉันเป็นคนตลกดี ตอนนั้นเลยคิดออกว่า อ๋อ ที่แท้ถูกเลือกมาเพื่อสร้างสีสันรายการวาไรตี้นี่เอง หลังจากนั้นเลยพยายามมาก 

แต่หลังจากนั้นมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ฉันกดดันให้ตัวเองพูดเรื่องตลกๆออกมา แต่ก็กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อไปเสียจนได้ ฉันตั้งทาคายามะ คาสึมิ ขึ้นเป็นคู่แข่งเพื่อให้ตัวเองพยายามมากขึ้น แต่ก็ไม่ถูกเลือกให้เป็นซบส.อีกเลยตั้งแต่ซิงเกิ้ลที่4เป็นต้นมา"

    ตอนช่วงประถม เธอเคยเรียนการแสดงเพื่อหวังจะเป็นนักแสดงในอนาคต เคยถูกเลือกเป็นเซนเตอร์ในวงไอดอลกลุ่มหนึ่ง แต่ตำแหน่งอันเดอร์นั้นค่อยๆทำให้เธอหยุดชะงัก แต่ก้าวต่อไปไม่ได้

----------------------------

นาคาโมโตะ ฮิเมกะ – สาวน้อยเรียบง่าย
    นาคาโมโตะ ฮิเมกะ ไปโรงเรียนสอนร้องเพลงและเต้น เนื่องจากแม่ของเธอเป็นผู้แนะนำ

    ฉันเริ่มหัดเต้นตอนป.1 และเข้าโรงเรียนสอนเต้นจริงๆจังๆตอนป.4 ตอนนั้นทำตามที่แม่แนะนำ ไม่ได้คิดจริงจังเลยค่ะ เพื่อนที่โรงเรียนทุกคนอยากเป็นนักเต้นในอนาคตกันทั้งนั้น แต่ฉันกลับบอกว่าอยากเป็นช่างตัดขนสุนัขค่ะ 555 ฉันไปเรียนพิเศษต่างๆเพิ่ม ส่วนเรื่องการออดิชั่น คุณแม่จะเป็นคนหามาให้เลยไม่ได้คิดว่ามันแปลกอะไร"

    บ้านของเธออยู่ที่จังหวัดฮิโรชิม่า พี่น้องของเธอประกอบด้วยเธอ พี่สาว และน้องสาว

    พวกเราเป็นพี่น้อง3สาวค่ะ พี่สาวไม่ได้ทำอะไรแบบนี้เลย เธอเรียนเก่งมากๆค่ะ ส่วนน้องสาว เธอร้องเพลงเก่งมากตั้งแต่เด็ก เลยเอาดีทางด้านนี้มากกว่าการเรียนค่ะ ทั้งสองคนต่างก็โดดเด่นกันคนละด้าน ฉันเป็นคนครึ่งๆกลางๆ ไปโรงเรียนสอนเต้นก็จริง แต่ก็ไม่เคยคิดว่าอยากจะทำงานในวงการบันเทิงค่ะ"

    การออดิชั่นต่างๆ คุณแม่ของฉันเป็นคนช่วยหาให้ แต่ว่าการออดิชั่นวงโนกิซากะ46เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจเองค่ะ ไม่รู้ทำไมจู่ๆก็คิดว่าน่าสนุกจังเลยนะ อยากลองทำจัง แต่ตอนนั้นเป็นช่วงม.ปลายปี3พอดี สมมติถ้าออดิชั่นไม่ผ่าน ก็คงจะเลิกไปเรียนเต้นแล้วหันมาสอบจริงๆจังๆแทนไปแล้ว ฉันเลือกสมัครรุ่นที่1 เพราะถ้าเป็นรุ่นที่2ฉันคงกลัวพวกรุ่นพี่จนไม่กล้าแน่ๆค่ะ 555”

    และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เธอตั้งใจทำมันด้วยตัวเอง เธอออดิชั่นและผ่านเข้ามาได้อย่างงดงาม แต่ทว่า เธอก็ยังไม่ถูกเลือกเป็นซบส.อยู่ดี

    เพราะเป็นคนมีชีวิตเรียบง่ายมาตลอด พอเข้าวงโนกิซากะ46มา ก็เริ่มท้อค่ะ ตอนแรกที่ไม่ได้เป็นซบส.ก็ฮึดสู้ขึ้นมา แต่ว่าตารางงานก็ว่างเปล่า ตอนนั้นในรายการโนกิซากัตเตะโคโคะ ที่ฉายเฉพาะทางอินเตอร์เน็ต เพื่อนๆบอกว่าฉันมีบีมออกมาจากดวงตา เลยกลายเป็นท่าไม้ตายฮิเมตันบีมขึ้นมา แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางเท่าไหร่ ตอนช่วงซิงเกิลที่3 [Hashire! Bicycle]เป็นช่วงที่เริ่มถอดใจค่ะ

    พอฉันมาลองคิดตอนนี้ ตอนที่ซ้อมฉันก็ไม่ได้ทุ่มเทด้วยพลังจริงๆ เป็นอันเดอร์ที่ยืนอยู่ริมสุดค่ะ ในMV [Seifuku no Mannequin] ทุกคนได้ออกในMVกันหมด แต่ฉันเป็นคนที่ยืนสุดขอบ กังวลมากๆเลยค่ะ"

    เธอถูกเลือกเป็นซบส.ซิงเกิลที่7 [Baretta] แต่ก็หลุดกลับไปเป็นอันเดอร์อีกครั้งในซิงเกิลที่ 8

    ฉันคิดอยากเลิกหลายครั้งค่ะ"

----------------------------

นาคาดะ คานะ – ไปสู่ไอดอลในอุดมคติ
    ฉันไม่ได้อยากเป็นไอดอลหรอกค่ะ ในทางกลับกัน ฉันมาออดิชั่นเพื่อให้ได้เป็นเพื่อนกับไอดอล เป็นแค่กิจกรรมของโวตะไอดอลค่ะนาคาดะ คานะ เมื่อมองย้อนกลับไป มันเป็นเพียงความคิดของคนที่คลั่งไอดอลมากๆ

    ความจริง ไม่ได้ตั้งใจจะมาออดิชั่นหรอกค่ะ ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับคนที่มาออดิชั่น แลกเปลี่ยนเบอร์ติดต่อ แล้วสนิทกันค่ะ และที่โรงเรียนมีกฏห้ามทำกิจกรรมในวงการบันเทิงด้วยค่ะ"

    เธอออดิชั่นด้วยความคิดเช่นนั้น และผลปรากฏว่าเธอผ่านการออดิชั่น เธอจึงโทรไปแจ้งข่าวนี้ให้แม่ของเธอทราบ

    ฉันบอกแม่ให้ช่วยโทรไปลาออกจากโรงเรียนค่ะ เพราะคิดว่านี่เป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ จากนั้นก็ย้ายไปเรียนโรงเรียนที่ฉันสามารถทำงานในวงการบันเทิงได้ แม่ของฉันโกรธมาก เพราะท่านวางแผนให้ฉันเรียนกวดวิชาตั้งแต่ประถม เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย และหางานดีๆได้ ท่านแทบไม่เชื่อเลยค่ะ แต่ว่าพ่อเข้าใจ ความจริงพ่อดูเหมือนว่าอยากจะให้ฉันเป็นไอดอลน่ะค่ะ พ่อชอบHello! Projectมาก เลยให้ไปออดิชั่นตั้งแต่เด็กๆค่ะ"

    ตั้งแต่นาคาดะเข้ามาในวง เธอถูกเลือกให้เป็นชิจิฟุคุจิน และในซิงเกิ้ลที่2เธอก็ถูกวางให้อยู่ในตำแหน่งแถวหน้า

    แต่ทว่า หลังจากนั้นตำแหน่งของเธอก็ค่อยๆถอยร่นลงมาเรื่อยๆ ทีละนิดๆ

    ในซิงเกิลที่4 [Seifuku no Mannequin] เป็นครั้งแรกที่ไม่ถูกเลือกเป็นซบส. หลังจบการประกาศในรายการโนกิโดโคะ ฉันร้องไห้เสียงดังต่อหน้าทุกคนในห้องพักค่ะ ช่วงนั้นพอดีตรงกับตอนที่ตัดสินใจเลือกไม่สอบเข้ามหาลัยต่อ ฉันทำพฤติกรรมแย่ๆกับอันเดอร์เมมเบอร์ไปค่ะ ขอโทษจริงๆค่ะ"

    หลังจากนั้น เธอกลับมายืนในตำแหน่งซบส.ในซิงเกิ้ลที่5และ6 และหลังจากนั้นเธอก็ตกไปเป็นอันเดอร์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทำให้เธอแน่วแน่กว่าเดิม

    ฉันคิดว่าสักวันหนึ่งต้องได้กลับไปเป็นซบส.แน่นอนค่ะ แต่ว่าฉันเองก็มีสิ่งที่อยากจะทำให้ได้อยู่เหมือนกัน ฉันชอบการแสดงไลฟ์ของAKB48มากๆ ถ้าเป็นไอดอล ยังไงๆก็ต้องมีไลฟ์ เลยอยากให้มีไลฟ์ของอันเดอร์บ้าง ถึงมันจะเล็กแค่ไหนก็ตามค่ะ"

    นาคาดะคานะที่คลั่งไคล้ไอดอลมากๆ ขณะเดียวกันกับที่เธอทุ่มเทแรงกายให้กับอันเดอร์ เธอยังครุ่นคิดถึงการเป็นไอดอลในอุดมคติอีกด้วย

----------------------------

เอโต้ มิสะ – ประวัติอาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่
    โซนี่มิวสิคจัดการออดิชั่นครั้งใหญ่ที่สุดทั่วประเทศ นั่นคือการออดิชั่นโปรเจคท์โนกิซากะ46 ด้วยเหตุนี้ ในวงโนกิซากะ46จึงมีคนที่เคยผ่านงานบันเทิงมาอย่างเช่นโนโจอามิรวมอยู่ด้วย

    ในบรรดาเมมเบอร์ทั้งหมด คนที่เคยมีชื่อปรากฏในวงการที่น่าจดจำที่สุด คือเอโต้มิสะ เธอเคยรับรางวัลกรังปรีด์ของมิสแม็กกาซีนในเดือนกรกฎาคม ปี2011

    ตอนเดือนเมษายน ปี2011 มีแมวมองเข้ามาทัก ตอนนั้นเป็นช่วงที่เพิ่งจบม.ปลายและย้ายเข้ามาในโตเกียวพอดีค่ะ ออดิชั่นที่ไปครั้งแรกคือมิสแม็กกาซีนค่ะ อยากจะเป็นนักแสดง และชื่นชอบมิสแม็กกาซีนคนก่อนเช่นคิตาโนะคีมากๆด้วยคะ เลยคิดว่าตรงนี้อาจจะเป็นประตูก้าวสู่การเป็นนักแสดง เลยลองเข้ามาประกวดดู พอได้รางวัลก็ตกใจมากๆเลยค่ะ"

    การเข้ามาอยู่ที่โตเกียว แล้วเปล่งประกายในตำแหน่งมิสแม็กกาซีนในทันทีนั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่น่าเชื่อของผู้หญิงคนนี้

    ฉันชื่นชมAKB48จริงๆนะคะ ฉันเองถึงอยากจะเป็นนักแสดง แต่ความอยากเป็นไอดอลก็รุนแรงไม่แพ้กันค่ะ เลยลองเข้ามาออดิชั่นโนกิซากะ46 ทุ่มเทด้วยพลังที่มี ถ้าได้อยู่ในวงนี้อาจจะทำให้เปล่งประกายมากขึ้นค่ะ ฉันเองก็เพิ่งอายุ18 เพิ่งเข้ามาโตเกียว ความใฝ่ฝันเลยสูงมากๆค่ะ

    เธอแบกความฝันนี้ ก้าวเข้าไปสู่การออดิชั่นโนกิซากะ46 และแล้วเธอประสบความสำเร็จอย่างงดงาม อนาคตที่สดใสดูเหมือนว่ากำลังรอคอยเธออยู่

    ความจริงแล้วฉันแทบไม่ได้รู้สึกถึงความพิเศษของการเป็นมิสแม็กกาซีนเลยค่ะ เป็นเพียงคนที่ถูกเลือก ไม่ได้มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันอะไรเลย ทุกๆคนในวงต่างเริ่มต้นในจุดเดียวกันทั้งสิ้น ฉันที่มีตำแหน่งมิสแม็กกาซีนอยู่ ยิ่งทำให้ใครๆคาดหวังว่าจะสามารถทำได้มากกว่าคนอื่น เป็นความกดดันที่ทรมานจริงๆค่ะ"

    เนื่องจากเธอเคยมีตำแหน่งมิสแม็กกาซีน ทำให้นักข่าวมากมายต่างมุ่งความสนใจไปที่ตัวเธอ และคิดว่าเธอจะเป็นผู้ที่นำพาวงโนกิซากะ46ให้โด่งดังแน่ๆ

    แต่ในความเป็นจริงที่โหดร้าย เธอไม่ได้ถูกเลือกให้อยู่ในซบส.

    ตอนนั้นฉันกังวลมากๆเลยค่ะ ฉันเองก็ไม่ได้แตกต่างกับเมมเบอร์คนอื่นๆ ในช่วงแรกแฟนๆคงจะตื่นเต้นไปกับวงโนกิซากะ46ว่าวงนี้จะถูกย้อมออกมาเป็นสีอะไร แต่คนที่เคยมีประวัติเคยเป็นมิสแม็กกาซีนมาก่อน(เธอเทียบว่าเหมือนประวัติอาชญากรรม) ทำให้เคยถูกย้อมสีมาแล้ว ให้คิดว่าไม่มีอคติมันก็เป็นไปไม่ได้ค่ะ ถ้าได้ยืนตำแหน่งแถวหน้า คงจะมีคนคิดว่าฉันได้ยืนตรงนี้เพราะเป็นมิสแม็กกาซีนมาก่อนสินะ ความจริงก็ดีใจกับตำแหน่งมิสแม็กกาซีนที่ได้รับมากๆเลยนะคะ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าที่เราไม่ได้ยืนในซบส.เป็นเพราะตำแหน่งนี้สินะ"

    ประวัติอาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้เธอต้องพิสูจน์ตัวเอง ในขณะนี้เธอกำลังค่อยๆก้าวไปข้างหน้าช้าๆทีละก้าว

----------------------------

นากาชิมะ เซย์ระ – ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ
    นากาชิมะเซย์ระมีพี่ชาย2คน เธอจึงเป็นเด็กผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงให้เติบโตและแข็งแกร่งอย่างเด็กผู้ชาย ที่โรงเรียนเธอเป็นคนประเภทที่สามารถพูดคุยได้กับทุกคนโดยไม่เกี่ยงว่าเขาเป็นเพศชายหรือหญิง เป็นคนที่เก่งที่สุดหรือห่วยที่สุดในโรงเรียน

    เพราะการมีพี่ชายสองคนทำให้ติดนิสัยเป็นคนพูดจาโผงผาง คำพูดเหล่านั้นอาจจะทำคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้ ตอนมัธยมต้นทำให้ไม่มีเพื่อนผู้หญิงค่ะ จากนั้นก็เริ่มระวังว่าสิ่งที่พูดไป คนอื่นเขาจะคิดยังไงกันนะ ฉันเริ่มคิดก่อนพูด และคอยให้กำลังใจเพื่อนๆอยู่เสมอค่ะ"

    ตอนช่วงมัธยมปลาย เธอเป็นคนดังที่มีเพื่อนๆอยู่รายล้อมตลอด และในช่วงม.ปลายปีที่2 เธอก็ผ่านการออดิชั่นเข้ามาในวงโนกิซากะ46

    ในวันที่จะต้องไปโตเกียว เพื่อนๆทุกคนในชั้นร่วมกันจัดงานเลี้ยงอำลา เพื่อนในชมรมฟุตบอลที่เป็นผู้จัดการและรุ่นพี่ที่จบไปแล้วก็มาจัดงานเลี้ยงอำลาให้กำลังใจด้วยค่ะ หลังจากเลิกงานฉันก็กลับบ้านไปครั้งนึง ก่อนจะตรงไปสถานีนาโกยะค่ะ

    ปรากฏว่าทุกคนยืนคอยตรงทางเข้ารถไฟชินคันเซ็นทั้งๆที่เพิ่งจะบอกลากันไปเมื่อกี้ค่ะ พอฉันเข้าเกทแล้ว ทุกคนตะโกนพร้อมกันว่า "เซย์ระสู้เค้านะ!" (เซย์ระกัมบาเระ) ทุกคนร้องไห้กันหมดเลยค่ะ ขนาดผู้ชายที่ปกติไม่ค่อยร้องไห้ก็ยังร้องค่ะ เพราะเพื่อนดีทุกคน ทำให้การจากลาเป็นเรื่องที่ทรมาณค่ะ"

    นากาชิมะเซย์ระเข้าโตเกียวเพื่อเริ่มการใช้ชีวิตเป็นไอดอล โดยแบกเสียงเชียร์และความคาดหวังของเพื่อนๆเอาไว้เต็มอก แต่ทว่าเธอก็ยังไม่สามารถตอบแทนความหวังเหล่านั้นได้เสียที

    ทั้งๆที่ฉันหวังจะได้เป็นซบส.แต่ก็ไม่เคยได้เป็นซักทีเลยค่ะ มันทรมาณมาก การเป็นอันเดอร์มันแทบไม่มีงานให้ทำเลยค่ะ ปกติรายการโนกิซากัตเตะโดโคะ จะมีแต่ซบส.ไปออกรายการเท่านั้นค่ะ ตอนประกาศซบส. เพื่อนโทรมาบอกว่า ไม่เป็นไร เราจะรอดูเธอนะ ไม่ว่าเซย์ระจะยืนอยู่ตรงไหนฉันก็จะคอยเชียร์เธอเสมอนะ"

    ทุกๆวันผ่านไปอย่างยากลำบาก จนกระทั่งเข้าสู่ซิงเกิ้ลที่5 [Kimi no na wa Kibou] เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับเลือกเป็นซบส.

    ตอนที่ประกาศซบส.เป็นช่วงเดือนมกราคม ตรงกับช่วงที่สอบเข้ามหาลัยพอดีเลยค่ะ เพื่อนโทรมาบอกฉันว่า ขอบคุณนะเซย์ระที่ติดซบส.ได้ เหมือนเธอให้ความหวังกับพวกเราเลย」「เธอเข้าซบส.ได้ในช่วงใกล้สอบแบบนี้ พวกเราก็ต้องพยายามเข้าเหมือนกัน」”

    ความพยายามของเธอสำเร็จได้ด้วยดี และได้ต่อยอดให้กับเพื่อนๆของเธอด้วย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ซิงเกิ้ลที่6เป็นต้นมา เธอก็กลับไปเป็นอันเดอร์ตามเดิม

    ตอนที่กลับไปเป็นอันเดอร์ เป็นช่วงที่ไมยันก้าวขึ้นไปเป็นเซนเตอร์พอดีค่ะ หลังประกาศซบส. ฉันเห็นเธอร้องไห้ เลยตัดสินใจบอกไปว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะคอยช่วยเหลือเสมอค่ะ"

    แม้ว่านากาชิมะเซย์ระจะกลับไปเป็นอันเดอร์อีกครั้ง แต่เธอก็ตั้งปณิธานไว้ว่าจะคอยสนับสนุนเพื่อนทุกคนเสมอ ไม่ว่าเธอจะยืนอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม

----------------------------

ไซโต้ อาสึกะ – น้ำตาของสาวน้อยที่ไหลริน
    ฉันเข้าวงโนกิซากะมาโดยไม่ได้คิดอะไรค่ะ"

    ไซโต้อาสึกะที่ขณะนี้ทำหน้าที่อยู่ในตำแหน่งซบส. เธอเล่าว่าตำแหน่งซบส.ในช่วงแรกนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรนัก แต่ความรู้สึก"เจ็บใจ"ครั้งแรกของเธอก่อตัวขึ้นตอนซิงเกิ้ลที่3 [Hashire! Bicycle]

    ตอนช่วงที่เรียนเพลงนี้กัน สมาชิกอันเดอร์ก็ได้แต่นั่งดูค่ะ ถ้าเทียบกับเพลง[Guruguru Curtain]หรือเพลง[Oide Shampoo]แล้ว เพลง[Hashire! Bicycle] เป็นเพลงเร็วที่ทำนองสดใสมากกว่า พอเห็นโนกิซากะได้ร้องเพลงแนวไอดอลจริงๆแล้วก็น้ำตาไหลเลยค่ะ เลยรู้ว่าตัวเองกำลังเจ็บใจอยู่"

    การแสดงครั้งแรกในงานจับมือรวม อันเดอร์ได้รับมอบหมายให้ถือม่านบังในขณะที่ซบส.กำลังแสตนด์บายรอ ตอนซ้อมสตาฟก็กำชับอันเดอร์ว่าถึงแม้เราจะแค่ถือม่านก็อย่าลืมยิ้มล่ะ แต่เอาเข้าจริงมันฝืนยิ้มไม่ได้เลย น้ำตามันไหลตลอด ทั้งๆที่เปิดตัวเพลงใหม่แท้ๆ"

    การต่อสู้ของไซโต้อาสึกะเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอสามารถก้าวเข้ามาในซบส.ได้ในซิงเกิ้ลที่4และ7 ตอนที่เธอไม่ถูกเรียกชื่อในซิงเกิ้ลที่8 เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี

    พอปีนขึ้นไปได้ไม่ทันไรก็ลื่นตกลงมา ความเป็นจริงของกำแพงซบส.ที่ทั้งสูงชันและแสนเศร้านั้น ช่างโหดร้ายเหลือเกิน

----------------------------

อิโต้ มาริกะ – การกลับใจของสาวน้อยผู้ไม่กระตือรือร้น
    เธอเล่าให้เราฟังว่าในช่วงวัยเด็กนั้นเธอเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้นเอาเสียเลย

    ตอนเด็กฉันสังกัดเอเจนซี่นางแบบแต่ก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ได้ไปออดิชั่นหลายครั้งแต่ก็ตกรอบหมดเพราะขาดความกระตือรือร้น ตอนนั้นในหัวไม่มีความรู้สึกท้าทายเลยค่ะ เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ผ่าน แล้วก็ไม่ผ่านจริงๆ ฉันอยากจะเป็นนางแบบ แต่ความสูงก็ไม่ถึง แล้วก็ไม่ได้อยากจะทำเท่าไหร่ เป็นคนที่ไม่ได้เรื่องเลยค่ะ"

    ทั้งๆอย่างนั้นอิโต้ก็ออดิชั่นโนกิซากะ46ผ่านมาได้ ในซิงเกิลที่3 [Hashire! Bicycle] เธอ ฟุคุกาวะไม และ วาคัทสึกิยูมิ ได้เข้ามาเป็นซบส.ครั้งแรกพร้อมกัน แต่ซิงเกิลที่4กลับมีแค่เธอเพียงคนเดียวที่หลุดลงไปอยู่อันเดอร์

    ฉันพยายามไม่พอค่ะ และเริ่มคิดว่าตัวเองไม่มีคาแรกเตอร์เลย ไม่เหมือนกับสองคนนั้น"

    จุดเริ่มต้นของมาริกะคือซิงเกิลที่5 การทำ "โคะจินPV” หรือหมายถึงการทำ PV ของแต่ละคน เพื่อโปรโมตตัวเอง และในตอนนั้นเอง [Marikka '17] ก็ได้กำเนิดขึ้นมา

    อิโต้ใส่เฮดโฟนและร้องเพลงบนระเบียง ซึ่งทั้งน่ารักและน่าประทับใจ ถ้าได้ดูครั้งหนึ่งก็ไม่มีทางที่จะลืมมันลงได้แน่นอน

    ถึงฉันจะไม่ได้อยู่ในซบส. แต่เพลง [Marikka '17] ก็กลายเป็นกระแสขึ้นมา มีหลายๆคนบอกว่าไม่รู้จักหน้าฉันแต่กลับรู้จักเพลงนี้ ฉันกลับเข้าไปในซบส.ในซิงเกิ้ลที่7 [Baretta] ซึ่งในMVฉันได้ท้าทายในการแสดงเป็นเด็กสาวที่ถูกยากูซ่าข่มขู่ กระแสตอบรับดีทีเดียวเลยค่ะ ตอนนั้นความกระตือรือร้นก็เริ่มต้นขึ้นมา แต่ซิงเกิลถัดมา กลับไปเป็นอันเดอร์เหมือนเดิม ก็กังวลใจอยู่เหมือนกันค่ะ"

    อิโต้มาริกะที่สลับไปมาระหว่างตำแหน่งซบส.และอันเดอร์ ไม่รู้วิธีการที่จะคลายความกังวลใจเช่นนี้ได้อย่างไร


---------------------

แปลจากนิตยสาร Nogizaka46 x Weekly Playboy
หน้า054-058

1 ความคิดเห็น: