10.15.2558

[แปลบทสัมภาษณ์] 4คู่ นานามินxไมยัน โคะxด้ง ยูมิxเรย์กะ มานัตสึxไมไม (034-041)




ฮาชิโมโตะ นานามิ x ชิราอิชิ ไม [นางแบบ]

ฮาชิโมโตะ : ฉากที่ถ่ายวันนี้เป็นแบบร้านเสื้อผ้าสวยๆที่ผู้หญิงชอบ ถ้าฉันไม่ได้ถ่ายกับไมยังก็คงจะไม่ไหวหรอก
ชิราอิชิ : ถ้าเป็นนิตยสารแฟชั่นก็เห็นแบบนี้บ่อยๆอยู่เนอะ แต่มาถ่ายกันสองคนแบบนี้นี่ไม่เคยเลย รู้สึกแปลกใหม่ดีนะ

ฮาชิโมโตะ : จริง ว่าแต่หัวข้อในการพูดคุยครั้งนี้คือเรื่อง"นางแบบ"นะ แต่ฉันเองปกติใส่แต่ชุดวอร์ม กังวลกับหัวข้อนี้จัง
ชิราอิชิ : จำได้มั้ย ตอนที่เข้าวงมาใหม่ๆ ที่กลุ่มสมาชิกผู้ใหญ่ไปถ่ายพุริคุระกันที่ชิบุยะน่ะ

ฮาชิโมโตะ : อาา ไปถ่ายมาจริงด้วยสินะ
ชิราอิชิ : ตอนนั้นนานามินใส่ชุดตอนซ้อม เสื้อยืดกางเกงวอร์มล่ะ ใส่ชุดธรรมดามากๆ

ฮาชิโมโตะ : แต่ก็มีคนบอกว่าฉันดูเข้ากับชุดแบบนั้นนะ
ชิราอิชิ : เข้ากันจริงๆแหละ นานามินใส่ชุดแบบนั้นก็ไม่ได้รู้สึกแปลกตาเท่าไหร่

ฮาชิโมโตะ : ก็ไม่ขนาดนั้น พอลองมาคิดดู ก็ตอนนั้นใส่ชุดแบบนั้นขึ้นรถไฟไปชิบุยะซะด้วยสิ คนอื่นเขาเอาชุดไปเปลี่ยนตอนซ้อมกัน ส่วนฉันนี่ใส่ชุดวอร์มสมัยเรียนตอนมัธยมที่ต่างจังหวัดไป เสื้อยืดข้างในก็เป็นชุดไว้ใส่นอน ใส่ทั้งตอนไปและตอนกลับด้วยนะ
ชิราอิชิ : ตอนนั้นฉันก็ใส่ชุดมั่วๆไปเหมือนกัน

ฮาชิโมโตะ : แต่ไมยันก็เปลี่ยนไปเยอะนะ เมื่อก่อนไม่เคยเห็นไมยันใส่กางเกงเลยนะ แต่หลังๆเริ่มใส่กางเกงหลายๆแบบนี่นา


ชิราอิชิ : ฮะๆ เพราะได้ใส่ชุดที่ไม่เคยใส่มาก่อนตอนถ่ายแบบลงนิตยสารด้วย เลยรู้สึกสนใจขึ้นมาน่ะ ตอนอายุ19,20มีแต่ชุดวันพีซเต็มตู้ พออายุเยอะขึ้นก็อยากจะใส่ชุดที่มันสมวัยหน่อย เลยอยากลองใส่อะไรหลายๆแบบดู นานามินมีใครในวงที่คิดว่าแต่งตัวดีบ้างมั้ย
ฮาชิโมโตะ : คงจะเป็นอิโต้มาริกะล่ะนะ

ชิราอิชิ : คิดเหมือนกัน มาริกะจะใส่ชุดที่ตัวเองชอบ และเป็นแนวทางของตัวเองเสมอ ทำให้ยิ่งน่าดึงดูดมากๆเลยล่ะ
ฮาชิโมโตะ : ฉันเองไม่ค่อยใส่เสื้อผ้ามือสอง แต่เห็นมาริกะใส่แล้วดูดี หลังๆคาสึมินก็เปลี่ยนไปเหมือนกันนะ แรกๆใส่ชุดสไตล์น่ารัก เป็นลายขนมตลอด

ชิราอิชิ : จริงๆด้วย ใส่เสื้อลายช็อกโกแลตบ้างล่ะ จี้รูปขนมบ้างล่ะ
ฮาชิโมโตะ : ใช่ๆ แต่เดี๋ยวนี้หันมาใส่อะไรที่ออกจากโลกแฟนตาซีมากขึ้น อย่างรองเท้าผ้าใบเท่ๆ

ชิราอิชิ : เป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วสินะ อาสุกะก็เริ่มใส่ชุดดูผู้ใหญ่ขึ้นเหมือนกัน ชุดสีดำอะไรพวกนี้
ฮาชิโมโตะ : อาสุกะเขาใส่ชุดที่แม่เลือกให้น่ะ

ชิราอิชิ : อิคุจังก็เหมือนกันเนอะ
ฮาชิโมโตะ : มินามิก็เหมือนกัน แต่ทุกคนดูน่ารักมากๆเลยนะ ว่าแต่ เวลาไมยันซื้อเสื้อผ้าจะมีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้างมั้ย

ชิราอิชิ : ฉันซื้อเสื้อผ้าผิดๆมาเยอะมาก เวลาซื้อเลยต้องดูว่าจะใส่ได้นานมั้ยด้วย


ฮาชิโมโตะ : สำหรับฉัน พอรู้สึกตัวอีกทีก็มีแต่เสื้อผ้าสีดำเต็มตู้ เลยต้องบังคับตัวเองใส่ซื้อเสื้อผ้าสีสว่างบ้าง แต่พอซื้อมาแล้วก็ไม่อยากใส่เท่าไหร่ สุดท้ายก็ไม่ได้ใส่ ตอนนี้เลยเปลี่ยนแนวใหม่ เป็นเลือกเสื้อผ้าตามใจชอบ แล้วก็เสื้อผ้าที่ซักง่ายๆก็สำคัญเหมือนกันนะ
ชิราอิชิ : อ๊ะ นั่นแหละ เหมือนกันเลย

ฮาชิโมโตะ : เนอะ ถึงเสื้อจะน่ารักแค่ไหน แต่ถ้าซักยากก็ไม่ซื้อ.... ขอเปลี่ยนเรื่องนะ ไมยันเป็นคนแรกของวงใช่มั้ยล่ะที่ได้เป็นนางแบบนิตยสารRay หลังๆก็มีเมมเบอร์คนอื่นๆได้เป็นนางแบบมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงฉันด้วย เธอคิดว่ายังไงล่ะ
ชิราอิชิ : ดีใจมากๆนะ ถ้าได้เห็นเมมเบอร์คนอื่นลงนิตยสารก็ต้องหยิบมาอ่านแน่นอน พอได้เห็นมุมใหม่ๆของคนๆนั้นก็รู้สึกใจเต้นตึกตักขึ้นมา

ฮาชิโมโตะ : นิตยสารแต่ละเล่มก็มีมุมมองของเมมเบอร์คนนั้นแตกต่างกันออกไป ได้เรียนรู้อะไรมากมายเลยล่ะ
ชิราอิชิ : ใช่ๆ คิดว่ามีเมมเบอร์คนไหนที่น่าจะมาเป็นนางแบบบ้างมั้ย ฉันว่าอิคุจังเหมาะมากๆ สไตล์ก็ดูดี แต่งหน้าออกมาก็ดูดีสุดๆ

ฮาชิโมโตะ : ฉันว่าอิโอรินะ ปกติแล้วเธอจะแต่งหน้าบางๆตลอด ถ้าแต่งหน้าดีๆก็จะไปได้หลายลุคล่ะนะ


=============================================




อิโคมะ รินะ x อิคุตะ เอริกะ [โนกิซากะ]


MC : หัวข้อการพูดคุยครั้งนี้เป็นเรื่องโนกิซากะนะครับ พวกคุณคิดว่าวงโนกิซากะเป็นวงแบบไหน
อิโคมะ : วงไอดอลอื่นๆเค้ามักจะมีภาพลักษณ์เป็นวงที่สดใสและสนุกสนาน แต่ยูนิฟอร์มของวงเราจะเป็นแบบสุขุม มีเพลงที่มีความหมายแบบไม่สมหวัง เลยกลายเป็นจุดเด่นของวงเราไปเลยค่ะ
อิคุตะ : แฟนๆมักจะบอกว่าฉันมีความเป็นโนกิซากะอยู่เรื่อย แล้วฉันองก็เล่นเปียโนด้วยค่ะ เลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะบทเพลงที่ส่งผ่านด้วยเสียงเปียโน แต่อิโคมะจังบอกว่าน่าจะเป็นเพราะภาพลักษณ์ที่ดูบริสุทธิ์มากกว่า

MC : “ความเป็นโนกิซากะ"ที่ว่ามานั้นเริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
อิคุตะ : ถ้าเห็นอย่างชัดเจนคงจะเป็นเมื่อปีที่แล้วค่ะ ตอนที่พักกิจกรรมเพื่อเตรียมตัวสอบ ฉันได้ดูโนกิซากะทางทีวี รู้สึกว่าบรรยากาศมันเปลี่ยนไปมากค่ะ ทุกคนน่ารักมาก แค่เห็นก็ชื่นใจแล้ว ถ้าไม่ได้อยู่วงนี้คงจะเป็นแฟนคลับแน่ๆ

MC : ตอนที่เพิ่งก่อตั้งวง พวกคุณรู้มั้ยว่าวงตัวเองจะเป็นไอดอลรูปแบบไหน
อิโคมะ : ไม่รู้เลยค่ะ และไม่เคยคิดด้วยซ้ำไป
อิคุตะ : ตอนแรกๆที่เข้าวง ฉันพยายามวางตัวเองให้สมเป็นไอดอล แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ต้องพยายามทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเอง เลยทำงานอย่างสบายใจค่ะ


MC : ในกลุ่มต่างๆเช่นคนชอบอนิเมหรือการ์ตูนเขาจะมีพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์กัน โนกิซากะล่ะมีบ้างมั้ยครับ
อิโคมะ : ที่ๆมีความหมายมากๆในความทรงจำก็คงจะเป็นตึกโนกิซากะค่ะ สถานที่จัดออดิชั่นครั้งแรก ถึงที่นั่นจะจัดงานอีเวนท์เยอะแยะ แต่เพราะตัวเองไปที่นั่น ชีวิตฉันเลยเปลี่ยนไปค่ะ
อิคุตะ : สำหรับฉันคงจะเป็นที่ศาลเจ้าโนกิซากะ เพราะไปปีใหม่ทุกปี แล้วก็มีคำขอพรจากแฟนๆเขียนไว้เต็มเลยค่ะ

MC : ที่ทราบมาคุณอิโคมะกับคุณอิคุตะมีความสนใจที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนะครับ ปกติถ้าคุยกันมักจะคุยเรื่องอะไรกันครับ
อิโคมะ : จะว่าไปอิคุจังก็ไม่ได้ดูอนิเม เลยไม่มีเรื่องที่เราสนใจเหมือนกันน่ะ แต่เพราะเราไม่ต้องทำตัวเกรงใจกันซักท่าไหร่ เรื่องที่คุยกันก็จะเป็นเรื่องทั่วๆไป เช่นถามไถ่กันเรื่องงานค่ะ ถึงเราจะนิสัยและความชอบต่างกัน แต่เราคิดเรื่องเกี่ยวกับโนกิซากะเหมือนกันค่ะ
อิคุตะ : (พยักหน้า) พอได้ขึ้นแสดงด้วยกัน ก็มีเรื่องให้คุยกันมากขึ้น


MC : คุณอิโคมะกับคุณอิคุตะคิดว่าตัวเองมีอะไรที่เหมือนกันกับอีกฝ่ายบ้างครับ
อิคุตะ : เรื่องการใช้ชีวิต...
อิโคมะ : ใช่ ตอนแรกๆพวกเราเฉิ่มมากค่ะ 55
อิคุตะ : เมมเบอร์คนอื่นๆเขาจะแต่งตัวแต่งหน้ากันดีๆ มีแค่พวกเราสองคนที่ใส่แว่นไม่แต่งหน้าค่ะ
อิโคมะ : ตอนแรกที่เห็นอิคุจังก็รู้สึกเลยว่าเป็นคนที่สวยมาก เป็นคนที่ไม่มีทางได้เห็นในอาคิตะแน่ๆ
อิคุตะ : ภาพแรกที่เห็นอิโคมะจังคือ คนๆนี้หลังค่อมจังนะ
อิโคมะ : จริงๆด้วย พอรู้ตัวอีกทีก็สนิทกันแล้วเนอะ เมมเบอร์บางคนก็แอบคุยยากเหมือนกัน ถ้าเทียบโนกิซากะกับสีก็ต้องสีม่วงนี่ล่ะ ไม่ใช่สีสว่าง แต่ก็ไม่ใช่สีมืด

MC : คิดยังไงกับโนกิซากะในตอนนี้ครับ
อิคุตะ : ฉันรู้สึกประหลาดใจมากว่าทำไมแฟนๆของโนกิซากะถึงได้ใจดีขนาดนี้
อิโคมะ : อยากขอบคุณทุกคนที่คิดว่าวงเราเป็นวงที่ดี แต่ฉันคิดว่ามันยังเร็วเกินไปกับคำเหล่านั้นค่ะ เรากำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ ทุกๆคนจะพยายามทำให้วงเป็นที่รู้จัก และเป็นพลังให้วงเราก้าวไปอยู่ในจุดที่สูงกว่าเดิมค่ะ


=============================================




วาคัตสึกิ ยูมิ x ซากุไร เรย์กะ [มิตรภาพ]





MC : ครั้งนี้เรามาถ่ายแบบกันในหัวข้อมิตรภาพของผู้หญิง เป็นอย่างไรบ้างครับ
วาคัตสึกิ : พอได้รู้ว่าถ่ายแบบในธีมนี้คู่กับซากุไร ก็รู้เลยว่ากราเวียร์ครั้งนี้ต้องดีไม่แพ้ครั้งไหนๆแน่นอนค่ะ
ซากุไร : เย้
วาคัตสึกิ : และก็เน้นว่าเป็น"มิตรภาพ" ไม่ใช่"คู่รัก"ด้วยค่ะ

MC : เข้าใจแล้วครับ ครั้งนี้เรามาคุยเรื่องมิตรภาพกันนะครับ แล้วความสัมพันธ์ของพวกคุณทั้งคู่เริ่มต้นได้อย่างไรครับ
วาคัตสึกิ : เป็นเพราะเราอายุเท่ากันและความสูงใกล้เคียงกันค่ะ เลยได้นั่งข้างกันบ่อยๆ ได้ถ่ายรูปด้วยกัน เลยสนิทกันค่ะ
ซากุไร : เราทั้งคู่เรียนโรงเรียนหญิงล้วนคาทอลิกเหมือนกันด้วยค่ะ
วาคัตสึกิ : ใช่ๆ เลยรู้เรื่องจิปาถะในโรงเรียนคาทอลิคเยอะมาก พอฉันร้องเพลงสวดท่อนนึง ซากุไรก็จะร้องตามได้ทันทีเลยค่ะ

MC : มีอะไรที่เหมือนกันเยอะนะครับ นิสัยก็คงจะเหมือนกัน
วาคัตสึกิ&ซากุไร : ตรงข้ามกันเลยค่ะ
ซากุไร : วากะเค้าจะไม่วางของเรี่ยราด แต่ฉันใช้พื้นที่ถึง2ใน3ของโต๊ะที่ใช้ร่วมกันน่ะค่ะ
วาคัตสึกิ : จริงด้วยสิ ฉันถนัดเรื่องจัดของค่ะ แต่ช่วงนี้ไม่ได้เก็บของให้เรย์กะเลย แล้วก็ไม่ได้เตือนด้วย
ซากุไร : ช่วงนี้เย็นชาจังนะ! เมื่อก่อนยังเคยพูดเล่นๆว่าให้ฉันใช้พื้นที่ได้ถึงแค่ไหนอยู่เลย ช่วงนี้กลับไม่เห็นทำ
วาคัตสึกิ : ก็ให้คิดไงว่าถ้าไม่เตือนนั่นแหละคือความจริงจัง นี่อยู่ในช่วง"เดือนแห่งการเสริมความแข็งแกร่งให้คุณกัปตัน"อยู่นะ
ซากุไร : เอ๋!


MC : ทั้งคู่เคยไปทานข้าวด้วยกัน เคยนอนค้างบ้านกันมั้ยครับ
วาคัตสึกิ : เธอเคยมาค้างที่บ้านฉันนี่
ซากุไร : เคยๆ เธอบอกให้ฉันมานอนบนเตียง แต่วากะกลับนอนพื้นซะงั้น ฉันอุตส่าห์บอกว่าให้มานอนข้างๆกันแล้วนะ
วาคัตสึกิ : (มองอย่างไร้ความรู้สึก)
ซากุไร : หุหุ

MC : ปกติทั้งสองคนคุยเรื่องอะไรกันครับ
ซากุไร : เรื่องอนาคต..
วาคัตสึกิ : พออายุเลย20ก็จะคุยเรื่องจะทำยังไงกับวงนี้ดี แต่เรย์กะก็เอาแต่พูดเล่น ทำท่าเอามือมากำตรงแถวๆปาก แล้วแอ๊บพูดว่า"ยังไงเหรอ~?”อยู่เรื่อย
ซากุไร : แต่ตอนที่อยู่ห้องเดียวกันในโรงแรมก็คุยเรื่องนี้จริงจังนะ
วาคัตสึกิ : ก็จริงนะ
ซากุไร : เพราะไม่สว่างด้วยล่ะ
วาคัตสึกิ : ปัญหาคือระบบแสงเหรอ!?

MC : ตอนเข้านอนแล้วมีโมเมนต์คุยกันว่า"ยังไม่หลับใช่มั้ย?” อะไรแบบนี้มั้ย
วาคัตสึกิ : ซากุไรเป็นแบบนั้นบ่อย แต่ช่วงนี้เป็นช่วง"เดือนแห่งการเสริมความแข็งแกร่งให้คุณกัปตัน" เลยตอบกลับไปว่า "รีบๆนอนซะ"
ซากุไร : แล้วฉันก็จะโดดลงไปทับแล้วปลุกให้ตื่นค่ะ
วาคัตสึกิ : อืม แล้วก็นอนทั้งๆอย่างนั้นเลย แซวบ้างว่าทำไมวันนี้มันหนักจังน้า สงสัยคงเหนื่อยเกินไปล่ะมั้ง


MC : นอกจากทานข้าวแล้ว ทั้งคู่มีที่ๆอยากจะไปด้วยกันมั้ยครับ
ซากุไร : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ!
วาคัตสึกิ : เพราะไม่ชอบที่ร้อนๆกับที่มีแดดสินะ
ซากุไร : ใช่ หนาวๆก็ไม่ชอบนะ
วาคัตสึกิ : ถ้าอยู่ในพิพิธภัณฑ์นานๆเดี๋ยวก็บ่นว่าหนาวอยู่ดีนั่นแหละน่า
ซากุไร : ถึงตอนนั้นก็จะยืมเสื้อของวากะใส่ หุหุ
วาคัตสึกิ : ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวจะทำเป็นให้ยืมแล้วเอามาพันเอวตัวเองแทนแล้วกัน
ซากุไร : โถ่ อุตส่าห์รอ...


MC : จะว่าไปเด็กผู้หญิงมักจะมีของใช้ที่เหมือนกับเพื่อน แล้วทั้งคู่มีมั้ยครับ
ซากุไร : ตอนวันเกิดฉัน วากะให้แหวนคู่มาด้วยล่ะ เป็นลายดอกไม้ผีเสื้อแล้วก็หิน
วาคัตสึกิ : (หยิบแหวนมาโชว์) ทำตรงส่วนผีเสื้อหายไปซะแล้วสิ
ซากุไร : โหยย ของสำคัญนะ!!
วาคัตสึกิ : อืม ไม่เคยสวมเลยล่ะ
ซากุไร : ฉันก็เหมือนกัน กลัวว่าจะทำหายเลยเอาไปวางที่ห้อง ความจริงแล้วที่ห้องมีโซนของวากะด้วยนะ มีลิปสติกที่ได้จากวากะวางไว้ด้วย

MC : พอจะเข้าใจความสนิทของคุณทั้งคู่แล้วครับ สุดท้ายนี้ความสัมพันธ์ของพวกคุณอยู่ในฐานะอะไรครับ
วาคัตสึกิ : จุดที่ทำให้ฉันชอบซากุไร....ไม่มีเลยค่ะ
ซากุไร : (อึ้ง)
วาคัตสึกิ : ความรู้สึกเหมือนครอบครัวที่เราไม่สามารถอธิบายได้ว่าเราชอบเขาตรงไหนน่ะค่ะ ซากุไรเป็นเพื่อนที่คอยรับฟังฉัน เธอเลยเป็นคนสำคัญที่รับฟังเพื่อนที่น่ารำคาญอย่างฉัน
ซากุไร : ฉันด้วยค่ะ ไม่ใช่ว่าเราชอบอีกฝ่ายตรงไหน แต่มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น
วาคัตสึกิ : เพราะซากุไรเป็นกัปตันด้วย เลยคอยรับคำปรึกษาเสมอ ฟังแม้แต่เรื่องบ่นจุกจิก
ซากุไร : เพราะมีวากะอยู่ด้วย ฉันถึงก้าวมาเป็นกัปตันต่อไปได้ สบายใจเพราะเวลาที่มีปัญหาก็มีวากะคอยช่วยเหลือ จากนี้ก็ขอพึ่งพาต่อไปนะคะ

=============================================



อาคิโมโตะ มานัตสึ x ฟุคุกาวะ ไม [ไอดอล]


MC : ก่อนอื่นขอทราบความรู้สึกที่มาถ่ายกราเวียร์ครั้งนี้หน่อยครับ
อาคิโมโตะ : ถ้าทำให้คนอ่านรู้สึกตื่นเต้นก็คงจะดีนะคะ เพราะถ่ายกับไมไมในธีมแย่งผู้ชายกัน และก็อยากจะนำเสนอว่าฉันกับไมไมสนิทกันด้วยค่ะ

MC : ถ้าแย่งผู้ชายกันจริงๆ คิดว่าฝั่งไหนจะชนะครับ
ฟุคุกาวะ : ถึงมานัตสึดูเป็นปีศาจน้อย แต่ความจริงไม่ได้แรงขนาดนั้นหรอกค่ะ เป็นคนอ่อนโยนมากๆเลยค่ะ
อาคิโมโตะ
 : ไมไมพูดถึงฉันขนาดนี้ (ร้องไห้) ใจดีจัง!



ฟุคุกาวะ : เพราะฉะนั้นคงจะเสียสละให้เพื่อนน่ะค่ะ ยอมถอยห่างด้วยกันทั้งคู่

MC : แล้วถ้าอยากจะเข้าถึงเขาจะทำอย่างไรครับ
อาคิโมโตะ
 : ฉันจะเข้าไปหาเค้า เข้าไปปรึกษาเรื่องนู่นนี่ เอาความลับไปปรึกษาค่ะ



ฟุคุกาวะ : ส่วนฉันก่อนอื่นจะมองเค้าห่างๆ แล้วศึกษาดูว่าเค้ามีความสนใจในเรื่องอะไรค่ะ

MC : ตรงข้ามกันเลยนะครับเนี่ย ถ่ายแบบครั้งนี้ได้คอสเพลย์เป็นนางฟ้ากับปีศาจด้วย
อาคิโมโตะ
 : สนุกมากเลยค่ะ หัวเราะตลอดเลย ได้แต่งเป็นปีศาจเลยไม่ต้องแคร์เรื่องมารยาทอะไรมาก ตอนถ่ายแบบเลยทำตัวตามสบายค่ะ



ฟุคุกาวะ : ตอนในห้องแต่งตัว สตาฟมาบอกฉันว่าต้องใส่ปีกใหญ่ๆถ่ายแบบด้วย ฉันตกใจมากเลยค่ะ



MC : ช่วยบอกถึงความเป็นนางฟ้าและปีศาจในตัวของอีกฝ่ายให้เราได้ทราบหน่อยครับ
ฟุคุกาวะ : ส่วนที่เป็นนางฟ้าของมานัตสึคือจะเป็นเหมือนคุณแม่เวลาที่เม็มเบอร์ท้อแท้หรือร้องไห้ค่ะ ส่วนปีศาจคงจะเป็นเรื่องที่ชอบใส่ชุดเปิดไหล่มั้งคะ ตอนซ้อมเต้นก็ชอบใส่ชุดรัดๆมา

MC : แล้วคุณฟุคากาวะเป็นอย่างไรบ้างครับ?
อาคิโมโตะ : ไมไมเป็นนางฟ้าทุกตารางนิ้วเลยค่ะ นิสัยก็ดี อ่อนโยนกับทุกคน เป็นมิตรกับทุกคน ถ้าจุดที่เป็นปีศาจก็คงชอบเข้ามาถามนู่นนี่เรื่องของฉันค่ะ ทำหน้าตาน่ารักเชียว ถึงจะรู้ว่ามีพิษซ่อนอยู่แต่ก็ทนไม่ไหวจริงๆค่ะ

MC : ทั้งสองคนมีอะไรที่เหมือนกันบ้างมั้ยครับ
ฟุคุกาวะ
 : เราสองคนมีบรรยากาศที่คล้ายกันค่ะ อยู่ด้วยกันได้สบาย เวลาเหนื่อยๆก็จะเรียกว่า"จัง" ก่อนหน้านี้เราซ้อมกันเหนื่อยมาก เลยเรียกมานะจังเข้าไปกอดค่ะ



อาคิโมโตะ : ฉันก็เรียกไมจางเหมือนกันค่ะ

MC : ไอดอลในอุดมคติเป็นอย่างไรเหรอครับ
ฟุคุกาวะ : ถ้าเป็นในหมู่เมมเบอร์ มานัตสึเนี่ยแหละไอดอลแท้ และก็ฮิเมตันด้วย ส่วนฉันไม่คิดว่าตัวเองเหมือนไอดอลเลยค่ะ แต่เวลาร้องเพลงRomance no Start แล้วแฟนตะโกนกลับมาว่าสุคิ ก็รู้สึกเหมือนกันนะว่าตัวเองเป็นไอดอล
อาคิโมโตะ : ฉันเองไม่มีเป้าหมายเลยค่ะ ไม่คิดเรื่องการเป็นไอดอลในอุดมคติเลย คิดแค่ว่าทำอย่างไรดีให้แฟนๆมีความสุข ไม่เอาความกลัดกลุ้มขึ้นเวลา จะปลุกตัวเองตลอดว่า มานัตตันเป็นไอดอลนะ!


MC : จุดเด่นของโนกิซากะคืออะไรครับ?
ฟุคุกาวะ : มีความเป็นญี่ปุ่น ขนาดชื่อวงยังใช้ตัวอักษรคันจิ สีของวงก็เป็นสีม่วง ซึ่งไม่ใช่สีสว่างเกินไป ธรรมดามากเลยล่ะ
อาคิโมโตะ : เมมเบอร์ส่วนใหญ่ก็เป็นนางฟ้ากันทั้งนั้น คนในวงอ่อนโยนมากเลยค่ะ
ฟุคุกาวะ : เป็นสีวงที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกรุนแรง เป็นสีที่ละมุนค่ะ

MC : มีเป้าหมายในการเป็นไอดอลอย่างไรบ้างครับ
ฟุคุกาวะ : ทำทุกอย่างด้วยความรู้สึกสนุกค่ะ ยืนให้ได้ด้วยตัวเอง และบางครั้งก็พึ่งพาคนอื่นด้วย ตอนแรกฉันไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็นเลยค่ะ แต่แฟนๆคอยบอกเสมอว่าให้ฉันลองพึ่งพาคนอื่นบ้าง เวลาเศร้าก็มีคนมาคอมเมนต์ว่าจะคอยเชียร์ฉันเสมอไม่ว่าฉันจะอยู่ตรงไหนก็ตาม มันช่วยฉันได้มากเลยค่ะ จากนั้นเลยมีความคิดอยากจะพึ่งพาในส่วนที่ตัวเองทำไม่ได้เหมือนกัน
อาคิโมโตะ : ฉันจะไม่เบื่อตัวเองค่ะ ตอนไปออกรายการฉันจะถูกมองว่าเป็นคนร้ายๆ ยังไงๆก็จะ"สุคคิ้วน์"ไปเรื่อยๆตราบใดที่ยังมีคนขออยู่ค่ะ และก็ถึงฉันจะดูเป็นคนเข้มแข็งแต่ก็อ่อนแอแบบผู้หญิงทั่วไปเหมือนกัน เลยคิดว่าจะดำเนินแผน"มานัตตันนัมเบอร์ทู"ค่ะ

MC : ซิงเกิลที่13ได้ประกาศเซ็นบัตสึออกมาแล้ว
ฟุคุกาวะ : ปกติฉันจะได้ยืนแต่แถว2กับแถว3 ครั้งนี้กลับไปยืนแถวหน้าสุด เป็นครั้งแรกที่เต้นแล้วไม่มีใครยืนอยู่ข้างหน้าค่ะ ตื่นเต้นมาก ได้เห็นแฟนๆมีความสุขฉันเองก็ดีใจค่ะ
อาคิโมโตะ : ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากเลยค่ะ ทั้งมีไมไมกับมิสะมิสะที่เพิ่งเคยอยู่แถวหน้า และมินามิกับอาสุกะที่ยืนขนาบข้างในแถวสอง ฉันเองในฐานะคนที่มีประสบการณ์มาก่อนก็จะคอยช่วยเหลือเมมเบอร์ที่ยืนแถวหน้า และเป็นแบบอย่างให้กับคนที่อยู่แถวหลังค่ะ จะเป็นฐานของวงนี้ และผลักดันวงให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเลค่ะ

=============================================

แปลจาก Nogizaka46 x Weekly Playboy 2015
หน้า 034-041

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น